รวบโจรในคราบวิน ตระเวนกระชากทรัพย์ต่างชาติ ย่านทองหล่อ

วันที่ 18 ตุลาคม 2563 เวลา 18.00 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.  พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5  พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รองผบก.น.5  พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.สน.ทองหล่อ  สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ จอกโคกสูง รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.อัครพล ธนธรรม พ.ต.ต.อิธิธร ประเสริฐศักดิ์ สว.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.กิตติเชษฐ์ กิติสาร สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ ร.ต.อ.สมยศ หมาดสง่า และร.ต.อ.วีระพงศ์ พลไชย รอง สว.สส.สน.ทองหล่อ ร่วมกันนำกำลัง ตํารวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จับกุม นาย พิษณุ รอดอุดม อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาสวมรอยวิน จยย.ตระเวนกระชากกระเป๋าชาวต่างชาติ

 

พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก 125 ไอสีขาว ดำ ทะเบียน 9กร 4673 เสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้าง เขตห้วยขวาง หมายเลข 48 จำนวน 1 ตัว เสื้อยืดคอกลม แขนสั้น สีขาว จำนวน 1 ตัว ยืดคอกลม แขนสั้น สีชมพู จำนวน 1 ตัว 5. กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงินเข้ม จำนวน 1 ตัว หมวกกันน็อกแบบครึ่งใบ สีดำ จำนวน 1 ใบ และรองเท้าแตะ ยี่ห้อแอดด้าสีเขียว จำนวน 1 คู่ โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณกลางซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ  เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา

 

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.25 น. นายจอง (นามสมมุติ) ผู้เสียหายชาวเกาหลี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่าวันที่ 14 ธันวาคม เวลา 22.35-22.40น. ขณะที่กำลังเดินอยู่ริมถนนสุขุมวิท เมื่อมาถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 27 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มีคนร้ายเป็นชาย ขับรถจักรยานยนต์ ก่อเหตุกระชากกระเป๋าถือสีน้ำตาล ที่ถืออยู่แล้วขับรถหลบหนีไป ภายในกระเป๋ามีทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีน้ำเงิน กระเป๋าสตางค์ ใบขับขี่ บัตรเครดิตบัตรเดบิต เงินสด 800 บาท และกุญแจรถยนต์

จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้ทำการตรวจสอบภาพจาก กล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม เวลาประมาณ 22.35 น. ขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินอยู่ริมถนนสุขุมวิท 27 ที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น คลิก สี ขาว ไม่ติดแผ่นป้าย ทะเบียน แต่งกายสวมเสื้อวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสีส้ม ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาจอดรอผู้เสียหายภายในซอยสุขุมวิท 27 เมื่อผู้เสียหายเดินผ่านมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์เข้าไปหาแล้วได้กระชาก กระเป๋าของผู้เสียหายแล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงทำการตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีเพิ่มเติม

กระทั่งทราบว่าคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปภายในชุมชนวัดน้อยนพคุณ ซอยสันติสุข ถนนพิชัย แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น คลิก 125 ไอ สี ขาว หมายเลขทะเบียน 9กร-4673 กรุงเทพมหานคร ซึ่งบริเวณแผ่นป้าย ทะเบียนของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมีคลิปหนีบกระดาษหนีบอยู่เพื่อปิดบังป้ายทะเบียน

ต่อมาพบเจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวคือ นายพิษณุ หรือเอ็ม ผู้ต้องหารายนั้ใช้ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่วินสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอตลิ้งค์ มักกะสัน เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ โดยสวมเสื้อวิน หมายเลข 48 เขตห้วยขวาง ที่มีชื่อผู้ขึ้นทะเบียนขับขี่รถจักยานยนต์รับจ้างสาธารณะคือญาติของผู้ต้องหา ที่เสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นทางตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมนาย พิษณุ ได้บริเวณกลางซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ก่อนคุมตัวไปตรวจยึดของกลางทั้งหมด และสอบสวน ที่ สน.ทองหล่อ

จากการสอบสวน นายพิษณุ หรือเอ็ม ให้การยอมรับสารภาพว่า สาเหตุที่ก่อเหตุดังกล่าวเพราะต้องการนำเงินไปเสพยาเสพติด หลังทะเลาะกับแฟนสาว จึงได้ออกตระเวนก่อเหตุ โดยมักจะสวมเสื้อวิน จยย. เพื่อไม่ให้เหนื่อระวังตัว รวมทั้งจะเลือกก่อเหตุกับชาวต่างชาติ ในโซนถนนสุขุมวิท ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ เน้นเป็นชาวเกาหลี ชาวญี่ปุ่น ที่เดินริมถนน ในยามค่ำคืน เมื่อก่อเหตุแล้วจะหลบอยู่บ้านเพื่อนแถวถนนสามเสน กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว 

 

โดยเจ้าตัวยังยอมรับอีกว่าก่อเหตุลักษณะนี้ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ 3 ครั้ง และพื้นที่ สน.บางรัก 1 ครั้ง อีกทั้งเมื่อทำการตรวจสอบประวัติเคยถูกจับกุมคดีวิ่งราวทรัพย์พื้นที่สน.มักกะสัน ปี 2557 พ้นโทษเดือนกรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ก่อนมาก่อเหตุดังกล่าว

 

จากนั้นได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด โดยจุดแรกบริเวณปากซอยสุขุมวิท 27 และปากซอยสุขุมวิท 47 ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาผิด การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

อย่างไรก็ดี การสืบสวนสอบสวนที่นำไปสู่การจับกุมคนร้ายครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมทั่วพื้นที่นครบาล โดยเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวน ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ให้แก่ประชาชน ภายหลังจากที่การสืบสวนต้องใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากมีข้อขัดข้องในเรื่องปริมาณกล้อง วงจรปิดในเส้นทางหลบหนี ซึ่งต้องใช้เวลาติดต่อประสานงานกับเอกชนเจ้าของกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่ไม่มี กล้องของหน่วยราชการรองรับ จึงทำให้ยากต่อการติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้