ข่าว

ระดมตำรวจ 1.2 แสนนาย คุมเข้มเลือกตั้ง อบจ. 20 ธ.ค.นี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รอง ผบ.ตร." ประชุมโค้งสุดท้าย ระดมตำรวจ 120,000 นาย ดูแลความปลอดภัยเลือกตั้ง "อบจ." ทั่วประเทศ 20 ธันวาคม นี้ จับตาเฝ้าระวัง 10 จังหวัด แข่งขันเดือด

วันนี้ (18 ธันวาคม 2563) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุม

 

 

 

 เพื่อตรวจสอบความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค.63

 

 ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. มีการเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านการข่าวและการสืบสวนสอบสวนกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดีที่อาจก่อเหตุสร้างสถานการณ์ และดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่มิให้เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างผู้สมัคร เกิดเหตุประทุษร้ายชีวิตหรือร่างกายต่างๆ , 2.ออกตรวจตรา สอดส่องป้องกันมิให้มีการกระทำความผิดกฎหมายในช่วงโค้งสุดท้ายตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นพ.ศ. 2562 และตามประมวลกฎหมายอาญา เช่น การทำลายป้ายผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาคและกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประสานการปฏิบัติและบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับจังหวัดที่มีการแข่งขันสูงอย่างใกล้ชิด

 

ระดมตำรวจ 1.2 แสนนาย คุมเข้มเลือกตั้ง อบจ. 20 ธ.ค.นี้

 3.อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะการจัดการจราจรให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย , 4.การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อการเข้าระงับเหตุ การรักษาความปลอดภัยในการขนย้ายหีบบัตรเลือกตั้ง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย , 5. สนับสนุนการปฏิบัติตามที่ กกต. และ กกต.จังหวัดร้องขอ , 6. มีการประชาสัมพันธ์ ข้อห้าม หรือกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมาย , 7. กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยึดระเบียบ ข้อกฎหมาย รวมถึงการวางตัวให้เป็นกลาง

 

 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกำลังตำรวจรักษาความปลอดภัยในการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งจะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ โดยได้จัดกำลังตำรวจประมาณ 120,000 นาย ดูแลการเลือกตั้ง จำนวน 97,000 คูหาทั่วประเทศ โดยจะมีชุดเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ทันทีหลังเกิดเหตุ จากการลงพื้นที่พบการทำผิดเล็กน้อยโดยที่จังหวัดชุมพร พบความผิด พ.ร.บ.คอมฯ กรณีโพสต์จูงใจให้เลือกผู้สมัคร และ ที่จังหวัดตรัง พบการทำลาย ป้ายหาเสียง ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว

 

 

 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนจังหวัดที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากผู้สมัครเป็นบุคคลมีชื่อเสียง และ นักการเมืองหน้าเก่า ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี เชียงใหม่ นครราชศรีมา สกลนคร น่าน พิจิตร กาญจนบุรี นครศรีธรรมราช และ ตรัง  จึงกำชับให้ตำรวจภูธรแต่ละจังหวัดเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เป็นพิเศษโดยเฉพาะคืนหมาหอนก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งอาจมีการซื้อสิทธิขายเสียงเกิดขึ้นได้

 

ระดมตำรวจ 1.2 แสนนาย คุมเข้มเลือกตั้ง อบจ. 20 ธ.ค.นี้

รอง ผบ.ตร. กล่างอีกว่า กรณีจังหวัดที่มีการแข่งขันดุเดือด เช่น นครศรีธรรมราช เนื่องจากมีผู้สมัครจำนวนมาก จะต้องจับตามเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ต้องระวังภัยธรรมชาติ ส่วนปัญหามือปืนรับจ้างรับงานช่วงนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวของซุ้มมือปืนกลุ่มใดตามพื้นที่ต่างๆ แต่ก็ให้ตำรวจเฝ้าติดตามทางการข่าว

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ที่มีผู้สมัครเป็นอดีตนายตำรวจ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องเรียน ในเรื่องการปฎิบัติตัวของเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งวันนี้ก็จะมีการกำชับรายละเอียดทั้งหมดกับทุกนายถึงเรื่องดังกล่าวด้วย และกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งจดหมายเชิญชวนคนเชียงใหม่เลือกผู้สมัคร พรรคเพื่อไทย ขณะนี้ทราบว่าทางกกต.ได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วว่าเข้าข่ายความผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้รับแจ้งความประเด็นนี้ พร้อมสั่งให้จับตาจังหวัดนี้ด้วยเพราะมีการแข่งขันค่อนข้างมาก

 

 อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตนให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยขอฝากประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายที่มักพบเป็นความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ได้แก่ 1. จงใจ ทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุด หรือเสียหาย 2. เล่นหรือจัดให้มีการการเล่นการพนันขันต่อใดๆ เกี่ยวข้องกับผลการเลือกตั้ง 3. ขาย จำหน่ายจ่ายแจกหรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง ระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง 4. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อลงคะแนนเลือกหรือไม่เลือกผู้สมัครใดหรืองดเว้นไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครใด 5. กระทำการใดโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิได้ หรือขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือมิให้ไปถึง ณ ที่เลือกตั้ง ทั้งนี้หากพบเห็นผู้กระทำความผิดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 191 ทั่วประเทศ หรือแจ้งเรื่องร้องเรียน หมายเลขสายด่วน ตร. 1599 และ แอพพลิเคชั่น Police I lert u

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ