ตาวัย 87ปี กลัวพลาดเบิกเงินประกันรายได้ที่ ธกส. รีบตื่นเช้าปั่นจักรยานไปตั้งแต่ตี 4 สุดท้ายไปไม่ถึงจุดหมาย

วันที่ 16 ธ.ค.63 เมื่อเวลา 04.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ เรืองศักดิ์ แสงคำ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุรถกระบะชนรถจักรยานปั่น มีคนเสียชีวิต จึงประสานสมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ฯ หน่วยกู้ชีพ อบต.โคกกลาง และกู้ภัยฮุก 31 เข้าร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็น 2 เลนสายลำปลายมาศ-ชำนิ บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ขาเข้าตัวอำเภอลำปลายมาศ พบรถยนต์กระบะยี่โตโยต้า วีโก้ สีบรอนเงิน ทะเบียน ผษ-2543 นครราชสีมา ตกลงข้างถนน ด้านหน้าได้รับความเสียหาย และยังพบสมุดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)สาขาลำปลายมาศ

บริเวณท้ายรถกระบะ พบรถจักรยานปั่น ถูกชนเสียหายทั้งคัน และพบร่างนายเปล่ง ปลาดรัมย์ อายุ 87 ปี บ้านเลขที่ 44 ม.12 ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุในสภาพแขนขาหักหลายแห่ง

ส่วนคนขับรถกระบะคือนายสุชาติ คูนอก อายุ43ปี บ้านเลขที่ 17ม.8 บ้านหนองเทา ต.ช่อผกา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนกู้ภัยจะส่งศพไปพิสูจน์ เพื่อให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

นางสาว วิไลภรณ์ ปลาดรัมย์ อายุ 39 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า พ่อ มีลูกด้วยกัน 7 คน ไปทำงานต่างจังหวัดทั้งหมด พ่อกับแม่อยู่กันเองตามลำพัง 2 คน หลังทราบข่าวได้เดินทางมาบ้านทันที

สอบถามทราบว่าเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.พ่อ ได้ปั่นจักรยานไปตัวอำเภอ เพื่อต้องการไปเช็คยอดเงินและเบิกเงินเยียวยาเกษตรกรของรัฐบาล แต่ ธกส.รับคิวในการบริการวันละ 300 คิว แต่ไปไม่ทัน

พอวันที่ 16 ธ.ค.คือวันเกิดเหตุ พ่อตัดสินใจตื่นตั้งแต่ตี 4 หวังจะไปรอคิวให้ได้ภายใน 300 ราย แต่มาเกิดเหตุก่อนจะไปถึงธนาคาร ที่ผ่านมาพยายามให้พ่อกับแม่หยุดทำนา เพราะอายุมากแล้ว จนกระทั่งล่าสุดพ่อบอกว่า “ปีนี้จะทำนาปีสุดท้ายแล้ว”ไม่คิดว่าปีสุดท้ายของพ่อจะเป็นการจากกันตลอดไป

จึงอยากให้ ธกส.หาวิธีการปรับปรุงแก้ไขวิธีการรอคิวให้ดีกว่านี้ ไม่อยากจะให้เกิดซ้ำรอยในกรณีของพ่อ ที่ต้องร้อนรนเพื่อไปให้ทัน แต่ต้องเอาชีวิตมาแลกกับบัตรคิวของ ธกส.

ภาพ/ข่าว อภิชาติ ศิริสุข/บุรีรัมย์