หนุ่มใหญ่วัย 67 ปี ตัดสินใจลาโลกเพราะความเกรงใจไม่อยากให้เป็นภาระใครอีก

วันที่ 15 ธันวาคม 2563 เวลา 13.00 น . เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภาพในอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ ปากซอยพุทธบูชา  จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแพทย์นิติเวช ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที  เมื่อเจ้าหน้าที่พร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ ปากซอยพุทธบูชา  แขวง บางมด เขต จอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร และ พบกับผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ในสภาพนั่งเสียชีวิตบนเก้าอี้ สวมใส่เสื้อเชิ๊ตลายสก๊อตสีขาวดำ กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ ทราบชื่อต่อมาชื่อนาย ศุภชัย ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 67 ปี จากการสังเกตุพบว่ามีบาดเเผลเป็นรอยถูกของมีคมกรีดบริเวณข้อมือ 2 แผล เป็นลักษณะแผลบาดลึกจนถึงเส้นเลือดใหญ่ ที่บริเวณบาดแผลมีลักษณะคราบเลือดที่แห้งเกรอะกรังแล้วคาดว่าน่าจะโดนมีดกรีดที่ข้อมือมานานแล้วเลือดจึงแห้ง ตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบกับเพื่อนผู้เสียชีวิตนั่งรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ 2 คน อีกคนเป็นเจ้าของอู่รถดังกล่าว ต่างบอกว่าเป็นเพื่อนของผู้ตาย

จากการสอบถามทางเพื่อนร่วมงานที่พักด้วยกันเปรียบเสมือนญาติคนนึง ชื่อนาย วินัย ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 60 ปี เล่าว่า "เมื่อก่อนทำงานด้วยกัน แล้วปลดเกษียณมาพร้อมกัน ก็มาพักอยู่ด้วยกัน ดูแลกันมาตลอด เมื่อก่อนก็ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่มาพักหลังแกเครียด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็คิดมาก ว่าจะเป็นภาระคนอื่น ต้องมาคอยดูแล เท่าที่รู้จัก ทำงานร่วมกันมา ก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน บาดแผลที่ข้อมือมีตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว  2 แผล เข้าลึกถึงเส้นเลือดอยู่"  แล้วยังบอกต่ออีกว่า " สงสัยเขาคงจะไม่อยากเป็นภาระใครอีกเพราะที่ผ่านมาเจ้าของอู่ซ่อมรถแห่งนี้ก็ให้อยู่อาศัยแบบไม่คิดอะไร แล้วคนแถวนี้ก็ซื้อข้าวซื้อของมาให้เขาอยู่บ่อยๆเขาก็คงจะเกรงใจ ก่อนที่เขาจะเดินเหินไม่ได้ อยู่ๆมาประมาณเมื่อต้นเดือนที่เเล้วก็ไม่รู้เป็นอะไรข้าวปลาไม่ยอมกิน ถ้าเขาจะกินก็กินแต่น้ำอย่างเดียว จนแขนขาเริ่มอ่อนแรงจนเดินเหินไม่ได้เหมือนคนปกติ ก็ทำให้ดูเหมือนเขายิ่งเศร้าหนักไปอีก สงสัยสาเหตุของการกรีดข้อมือในครั้งนี้ก็น่าจะมาจากการที่เขาไม่อยากจะเป็นภาระใครอีกแล้ว"

ส่วนทางเจ้าของอู่ซ่อม รถ  ชื่อนาย ดนัย ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 48 ปี เล่าว่า " ตนมาเปิดร้านก็พบ นั่งอยู่ท่านี้แล้ว แต่เรียกยังหันมามอง แต่รู้สึกว่ายังหายใจรวยรินอยู่ จึงไปตาม อาสาให้มาช่วยดู ส่วนแกพักอาศัยอยู่ห้องด้านหลัง ญาติกำลังจะพาไปโรงพยาบาล เข้าไปเอาเอกสารที่ห้อง พออาสา และ ญาติออกมาอีกทีก็เสียชีวิตแล้ว "  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้มอบหมายให้อาสาสมัครนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งก่อนที่จะให้ญาติมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ชุติเดช ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว คมชัดลึก กทม.