ตำรวจ เตรียมประมวลพยานหลักฐาน พยานคืนชุมนุมสุดท้าย

วันที่ 11 ธันวาคม 2563 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) เปิดเผยถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการชุมนุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของการชุมนุมคณะราษฎรว่า ฝ่ายสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามความผิดที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยเหตุการณ์ที่กลุ่มการ์ดที่ใช้ชื่อว่า WEVO (วีโว) ทำกิจกรรมรื้อรั้วลวดหนามที่ตำรวจนำไปทำเป็นแนวกั้น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ

จากเหตุความวุ่นวายที่กลุ่มการ์ดพยายามฝ่าแนวตำรวจ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน เป็นแผลฟกช้ำ และร่องรอยถูกกระแทกจากของแข็ง ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และความผิดที่เกี่ยวกับการทำให้เสียทรัพย์ ส่วนคนที่ปาวัตถุที่ทำให้เกิดควันระหว่างเหตุความวุ่นวาย ต้องรอพิสูจน์ก่อนว่าเข้าข่ายเป็นวัตถุระเบิดหรือไม่ ซึ่งตำรวจได้บันทึกภาพผู้ต้องสงสัยไว้ทั้งหมดแล้ว

ส่วนหลังจากเหตุความวุ่นวายดังกล่าว กลุ่มการ์ดวีโว ได้ไปทำกิจกรรมพ่นสีบนตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งตั้งอยู่หน้ากระทรวงคมนาคม ใกล้แยก จปร. ถนนราชดำเนินนอก พบว่าเข้าข่าย 2 ความผิด คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด จากการที่กลุ่มการ์ดพ่นสีสเปรย์ลงบนพื้นถนน และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ จากการพ่นสีสเปรย์ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินในความดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้เช่าหรือจัดซื้อไว้ใช้ในภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนข้อความที่เกิดจากการพ่นสีสเปรย์ จะพิจารณาด้วยว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย

สำหรับการจัดกิจกรรมเชิงวิชาการ ชุมนุมของคณะราษฎร ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ซึ่งช่วงท้ายของกิจกรรมมีผู้ชุมนุมไปทำกิจกรรมกลุ่มย่อยบนถนนราชดำเนิน และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น ต้องแยกพิจารณาดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือผู้ขออนุญาตจัดการชุมนุม จะเข้าข่ายฐานกระทำผิดเงื่อนไขการชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ไม่สามารถควบคุมผู้ชุมนุมให้ปฏิบัติตามข้อตกลงได้ อีกส่วนคือผู้ที่ทำกิจกรรม ที่จะถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนเงื่อนไขการชุมนุมในที่สาธารณะ ส่วนเนื้อหาการชุมนุมจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน