เปิดใจ "เสี่ยน้อย" 1 ในพลเมืองดีที่ขี่รถจยย.ไล่ตามจับหนุ่มคลั่งแทงกลางเมืองอุดรฯดับ 2 เจ็บอีกเพียบ เผยรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินที่ดูแลลูกหลานชาวอุดรฯให้ไม่ได้
หลังมีการเผยภาพคลิปวิดีโอวินาทีพลเมืองดีช่วยกันตามจับตัว นายอิทธิพล อิ่มผึ่ง หรือ แจ๊ค อายุ 31 ปี หนุ่มคลั่งไล่แทงเด็กและผู้หญิง ลงในเพจเฟซบุ๊ก "อุดรมีด่าน มีข่าว มีหมอลำ งานบุญ มีเหตุการณ์ต่างๆ บอกด้วย" และมีคนเข้ามาแชร์ต่อเป็นจำนวนมากนั้น
วันนี้ 8 ธ.ค. 2563 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายธนพงษ์ ชัยประสพ หรือ เสี่ยน้อย อายุ 54 ปี นักธุรกิจชาวอุดรธานี ที่โลกออนไลน์ให้สมญาว่า "หนุ่มคราดเหล็ก" ซึ่งเป็นชายพลเมืองดีในคลิปที่กำลังช่วยสกัดมือมีดคลั่งโหดไล่แทงชาวบ้านเสียชีวิต 2 และบาดเจ็บอีกหลายราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว เปิดคลิปอีกมุม! นาทีพลเมืองดีถีบรถจยย.หนุ่มคลั่งแทงคนกลางเมืองอุดรฯ ดับ 2 เจ็บอีกอื้อ
โดยนายธนพงษ์ หรือ เสี่ยน้อย ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า วันเกิดเหตุเป็นวันพ่อแห่งชาติ ลูกสาวคนโตโทรศัพท์มาบอกว่ากลับมาบ้านไม่ได้ มีแต่ลูกสาวคนเล็กกลับมา ก็คิดว่าจะต้องออกไปกินข้าวกับลูก ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์เวสป้าออกไปตัดผมที่ร้านถนนศรีชมชื่น ซึ่งตอนนั้นมีลูกค้ารอคิวรอตัดอยู่ ตนจึงขี่จักรยานยนต์เลยไปซื้อตับหมูปิ้งมาให้สุนัขก่อน
"ขี่มาถึง 4 แยกหลังเรือนจำ จุดแรกที่เกิดเหตุเห็นเหตุการณ์นักเรียน 2 คนถูกคนร้ายแทง ตอนแรกดูไม่ออกว่าเป็นเหตุอะไร รถชนหรือทะเลาะกัน จนคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หนีออกไปทางสถานีตำรวจ ตนเห็นที่มือซ้ายที่กำแฮนด์รถมีมีดโผล่ออกมา และเห็นภาพเด็กบาดเจ็บจับที่คอ จากนั้นตนก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามคนร้ายไปห่างๆ พอขับตามจนมาถึง 4 แยกเดิม ก็ไม่รู้ว่าคนร้ายไปทางไหน จึงได้ตะโกนถามคนแถวนั้น เขาก็บอกมา"
เสี่ยน้อย เล่าต่อว่า ในใจคิดว่าเราไม่มีอาวุธ ถ้าคนร้ายมาทำร้ายจะวิ่งหนี จึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามผ่านมัสยิด ถนนศรีชมชื่น ขี่ไปจนถึงสามแยกโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ถนนอำเภอ เห็นคนร้ายไปทำร้ายเด็กเดินริมถนน จึงจอดรถวิ่งเข้าไปร้านรับซื้อของเก่า ไปคว้าเอาคราดเหล็กจากที่ร้านมาเพื่อจะใช้เป็นอาวุธ ไล่คนร้ายตามมาถนนศรีสุข ถึงวงเวียนอนุสาวรีย์กรมหลวง ประจักษ์ ขี่มาทางถนนสุรการ ซึ่งคนร้ายก่อเหตุแทงนักศึกษาผู้หญิง ภาพนักศึกษาถูกทำร้ายนอนคว่ำหน้าเลือดไหลเต็มถนน รู้สึกโกรธมากจนทนไม่ไหว จะช่วยเขาได้ยังไง กลัวจะไปทำร้ายคนอื่นอีก จึงบีบแตรรถต่อเนื่อง ขี่ไล่ตามตะโกนเตือนไปด้วย ให้เขารู้ว่าไม่ได้ทะเลาะกัน แต่คนที่เราขี่ไล่เป็นฆาตกร คนร้ายขี่ไปในตลาดไทยอีสาน วนเวียนอยู่ในห้างเจริญศรีเก่า ตนก็ขี่ตามแต่รถขี่ได้ไม่เร็ว ก็เริ่มมีคนเข้ามาช่วยไล่ คันแรกเป็นน้องรู้จักกันมากับแฟน คนสวมหมวกกันน็อคสีขาว เขาจะขี่ไปชาร์จคนร้าย เราก็ได้ห้ามไว้ บอกคนร้ายมีอาวุธ
เสี่ยน้อย เล่าต่ออีกว่า คนร้ายขี่หนีไปถนนวัฒนา เข้ามายังซอยทางเกวียน หรือซอยเชิดสมบัติ ก็มีน้องเคอรี่และแกร็บฟู้ด เข้ามาช่วยไล่ตามคนร้าย กลัวว่าเขาจะเข้าไปชาร์จ ก็ตะโกนให้ระวังคนร้ายมีอาวุธ จนทะลุออกมาที่ถนนประจักษ์ คนร้ายเลี้ยวขี่มุ่งหน้าไปห้าแยกวุ่นวาย จนน้องเคอรี่ใช้เท้าถีบรถคนร้ายล้ม แต่น้องไม่มีอาวุธ ตนขี่ตามไปทันกำลังจอด คนร้ายจะเข้ามาทำร้าย จึงเอาคราดออกมาป้องกันตัว ไม่ได้เข้าไปชาร์จ เพื่อรอเวลาให้คนหรือตำรวจมาช่วย
"น้องแกร็บฟู้ดตามมาถึง มีมีดปลอกผลไม้มาด้วย ก็ช่วยกันคนร้ายไม่ให้หนี แต่ผมโกรธมากจนลืมตัว ขว้างคราดใส่คนร้าย เมื่อไม่มีอาวุธก็วิ่งหนี มาหยิบเอาพลั่วร้านวัสดุก่อสร้าง 2 อัน ไปให้น้องแกร็บฟู้ด 1 อัน ไปช่วยน้องผู้หญิงกำลังถูกทำร้าย คนร้ายหนีไปจนถึงร้านขายยา มีอาสามูลนิธิเข้ามาช่วย ขอให้เขาไปดักด้านหน้า ไปกันคนออกกลัวถูกทำร้าย หรือถูกจับเป็นตัวประกัน ไม่นานตำรวจก็มา 2 นาย ผมบอกให้ยิงมันเลย แต่ตำรวจคงทำไม่ได้ เมื่อตำรวจมามาก มีคนมาช่วยมากขึ้น ผมก็ถอยกลับ"
เสี่ยน้อย เผยอีกว่า หลังน้องเคอรี่ถีบรถคนร้ายล้ม เรามีสติก็คิดอยู่ว่าจะทำยังไง ให้ควบคุมสถานการณ์ไว้ให้ได้ ปากก็ต้องตะโกนเพื่อดึงดูดความสนใจคนร้าย ไม่ให้ไปก่อเหตุกับใครอีก กดดันคนร้ายเอาไว้ ประวิงเวลาเพื่อรอตำรวจ มาควบคุมสถานการณ์ พอสถานการณ์เริ่มควบคุมได้ ทบทวนอีกครั้งก็กลัวเหมือนกัน หน้ามืด เบาหวานก็ขึ้น แต่ก็คิดสงสารและเป็นห่วงผู้ประสบเหตุ ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นญาติพี่น้องเราหรือเปล่า
"น้องคนที่เสียชีวิตเป็นนักเรียนและอีกคนนักศึกษา มีคนบ้านอยู่ อ.หนองหาน รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน เราดูแลลูกหลานให้ไม่ได้ ต่อไปมาตรการต้องเยอะขึ้น น้องที่ร่วมในเหตุการณ์ผมนับถือน้ำใจมาก ถ้าน้องๆไม่เข้ามาช่วยสกัด ก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ตอนนั้นได้ ปกติเป็นคนไม่เล่นโซเชียล ไม่มีเฟซบุ๊ก ไม่มีไลน์ ลูกสาวเอาคอมเม้นท์มาให้ดู พอได้อ่านก็น้ำตาไหล อยากขอบคุณทุกคน เราไม่ใช่ฮีโร่ เราเป็นคนคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ ดีใจที่คนอุดรฯไม่ทิ้งกัน และขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง"
ข่าวโดย กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง