
นทท.ตาลุก หลังมีคลิปนร.เมืองคอนโหนสลิงข้ามเหวไปเรียน แนะพัฒนาเป็นท่องเที่ยว
นทท.ตาลุก หลังมีคลิปนร.เมืองคอนโหนสลิงข้ามเหวไปเรียน แนะพัฒนาเป็นท่องเที่ยว
(8 ธ.ค.) จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครศรีธรรมราชช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ครอบคลุมทั้ง 23 อำเภอ 165 ตำบล 1,545 หมู่บ้าน 120 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 919,003 คน 323,536 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 19 ราย ด้านที่อยู่อาศัย บ้านพักเสียหายบางส่วน 4,216 หลัง เสียหายทั้งหลัง 29 หลัง ได้สร้างความเสียหายอย่างหนัก ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมไปถึงถนนหนทางถูกน้ำกัดเซาะ ตัดขาด พังเสียหายหลายสาย ถึงแม้สถานการณ์ได้คลี่คลายลง แต่ความทุกข์ยากลำบากของพี่น้องประชาชนยังคงอยู่
โดยเฉพาะการสัญจรไปมาของชาวบ้านระหว่างพื้นที่ อย่างบ้านยอดเหลือง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "มาณพ กิจวิจิตร" พร้อมระบุข้อความว่า “เมื่อโรงเรียน เปิดแต่ถนนยังไม่มีใครทำความลำบากอยู่ที่เด็กไปโรงเรียน สิครับท่าน ควรตกลงกันได้แล้วครับ” และเฟซบุ๊ค “คะนึงนิจ แก้วรจนา” พร้อมข้อความ..กลับถึงบ้านด้วยความปลอดภัยแล้วนะเด็ก ๆ.. ##เส้นทางพิเศษหลังน้ำท่วม.. โดยได้เผยให้เห็นภาพความยากลำบาก และเสี่ยงอันตรายของเด็ก ๆ ที่จะต้องไปโรงเรียน ด้วยการโหนเชือกสลิงข้ามน้ำไปยังอีกฝั่งถนน ที่ค่อนข้างสูง เพื่อไปเรียนหนังสือ และในช่วงเย็นโรงเรียนเลิกคุณครูจะขับรถมาส่งนักเรียนบริเวณหน้าผาอีกฝั่งหนึ่งเพื่อนั่งรอกโหนสลิงกลับบ้าน โดยมีผู้ปกครองมารอีรับอยู่ฝั่งตรงข้าม
หลังมีการโพสต์คลิปภาพและข้อความดังกล่าว ปรากฏว่า มีผู้คนในโลกโซเชียลเข้ามาดู พร้อมกับแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย วิชาลูกเสือ เนตรนารี เด็ก ๆ ได้คะแนนเต็มทุกคน ,สนุกดีได้ผจญภัย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ตำหนิหน่วยงานที่รับผิดชอบ ล่าสุดมีหน่วยงานทางทหารและสื่อมวลชนเดินทางไปตรวจสอบเพื่อหาทางในการทำสะพานเพื่อให้สามารถข้ามหน้าผาในจุดดังกล่าวได้อย่างสะดวกปลอดภัย คาดว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตามได้มีกลุ่มนักท้องเที่ยว นักผจญภัยจากต่างจังหวัดได้สอบถามรายละเอียดและเส้นทางผ่านศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เพื่อจะเดินทางนำอุปกรณ์การเรียน เครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไปช่วยเหลือคุณครู นักเรียนและผู้ปกครอง และอยากจะผจญภัยโหนสลิงห้ามลำคลองในจุดดังกล่าวและถ่ายภาพ/คลิปไว้เป็นที่ระลึกครั้งหนึ่งในชีวิต เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวกลุ่มที่รักธรรมชาติและการผจญภัยอย่างกว้างขว้าง สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างแน่นอน ในเบื้องต้นนายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประธานศูนย์ข่าวนครศรีธรรมราช พร้อมทีมงานจะเดินทางเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เพื่อร่วมปรึกษาหารือกับผู้นำหมู่บ้านและแกนนำชาวบ้าน และมีการติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้นจากคุณครูคะนึงนิจ แก้วรจนา ครู คศ.3 โรงเรียนเคียงศิริ ต.นาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวในพื้นที่ที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุยาล-ม.3 โดยคุณครูคะนึงนิจ แก้วรจนา หนึ่งในคุณครูที่เดินทางมาส่งเด็กนักเรียนและต้องโหนสลิงกลับบ้านที่ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช .ข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.
ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช