ตม.แฉคลิปเสียงมั่ว อ้างนายพลเขมร แพร่เชื้อโควิดหมื่นคน

  พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 ในฐานะรองโฆษก สตม. ปฏิบัติหน้าที่แทน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. และโฆษก สตม. เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก พ.ต อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ว่า ขณะนี้ได้ปรากฏคลิปเสียง ซึ่งมีการแชร์และส่งต่อกันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล

  โดยมีการกล่าวอ้างว่า มีการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศกัมพูชาเป็นหมื่นคน หนักกว่าทางประเทศเมียนมา อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ทาง ตม.สระแก้ว ได้ประสานไปยังกงสุลกัมพูชาประจำประเทศไทย ซึ่งได้ข้อมูลว่า ข้อมูลในคลิปเสียงดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อน 
 

  ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์ในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันพบว่ามีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จริง โดยมีการตรวจหาเชื้อหลายร้อยราย พบผู้ติดเชื้อ 33 ราย และไม่พบผู้ติดเชื้อพักอาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดน ทางกงสุลกัมพูชา จึงขอความร่วมมืออย่าแชร์คลิปดังกล่าวออกไป เนื่องจากไม่เป็นความจริง อาจจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ส่งผลเสียต่อด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ”

 พ.ต.อ.ภัคพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้หน่วย ตม.ในสังกัดทุกจุดขานรับนโยบาย และได้ดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของ สตม. อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งได้กำชับและเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเพื่อป้องกันคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ไม่ผ่านการคัดกรองตามขั้นตอนอาศัยอยู่ในพื้นที่ชั้นในและนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดได้อีก 

 ทั้งนี้ หากประชาชนพบเบาะแส หรือมีข้อมูลการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หรือพบเห็นการกระทำความผิดกลับเข้ามาประเทศไทยแล้วไม่ผ่านการกักตัวตามที่กำหนดไว้ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หมายเลข 1178 ได้ตลอดเวลา หรือหน่วยงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัดในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งมีครบทุกจังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแลประเทศไทยปลอดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือสายด่วนกรมควบคุมโรคหมายเลข 1422 ได้ทันที

 รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคลิปเสียงดังกล่าว ซึ่งคาดว่าเป็นเสียงของนักพนันที่เดินทางไปเสี่ยงโชคในบ่อนกาสิโนฯของประเทศกัมพูชา ซึ่งมีการระบุว่า มีทหารในประเทศกัมพูชา ยศระดับนายพลรายหนึ่ง ซึ่งได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อเดินทางกลับมาไม่ได้ผ่านการกักตัว อีกทั้งยังได้ไปร่วมงานเลี้ยงอีกหลายแห่ง จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ไปสู่ประชาชนกว่า 1 หมื่นคน