ข่าว

จำกัดพื้นที่ลักลอบแนวชายแดนให้น้อยที่สุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองผบช.สตม. เผยประเทศเมียนมาประสานประเทศไทย สำรวจยอดบุคคลส่งกลับช่องทางถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อกักตัว 14 วัน  พร้อมจำกัดพื้นที่ลักลอบเข้าน้อยที่สุด พร้อมช่วยสืบสวนขยายผลสอบสวนโรค ย้ำความลับไม่มีหากเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ ต้องเอาผิดทั้งวินัยและอาญา

วันที่ 7 ธ.ค. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. กล่าวถึงการสกัดกั้นคนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายว่า ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่มีข่าวคนไทยลักลอบหลบหนีเข้าเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับการกำชับจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้จัดกำลังเข้าไปช่วยหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ดูแลตามแนวชายแดน ปรากฎว่ามีการจับกุมเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย กรณีการโพสต์เฟซบุ๊กไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งได้หลบหนีเข้ามาทางแม่สอด จ.ตาก ขณะนี้ทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศเมียนมาได้มีการประสานกับประเทศไทยเรื่องการสำรวจบุคคลที่อยู่ในประเทศเมียนมาเพื่อสำรวจยอดและส่งกลับมาตามช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อนำตัวมากักกัน 14 วันต่อไป

พล.ต.ต.อาชยน กล่าวต่อว่า เราพยายามซีลพื้นที่ให้มีการลักลอบเข้ามาให้น้อยที่สุด สำหรับช่องทางเข้าออกทั่วประเทศทั้งทางบก เรือ อากาศ มีทั้งหมด 126 ช่องทาง ได้มีการปิดพรมแดนทั้งหมด ยกเว้นบุคคล 11 ประเภทที่จะสามารถเข้าเมืองได้ เช่น บุคคลที่อยู่ในสถานทูต, มาเยี่ยมครอบครัว, มาประกอบธุรกิจ, นักเรียนนักศึกษา และข้อยกเว้นพิเศษเป็นข้อตกลงทางรัฐบาล เพราะฉะนั้นถ้าไม่เข้าตามหลัก 11 เหตุผล คนต่างด้าวก็ยังไม่สามารถเข้ามาตามด่านชายแดน หรือเข้ามาทางอากาศได้ จึงต้องมีมาตรการในการปิดพรมแดน เพื่อไม่ให้คนเข้าคนออก ป้องกันการแพร่เชื้อเข้าสู่ประเทศไทย ส่วนพื้นที่สีแดงได้มาจากการสืบสวนขยายผลจากคนที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองเข้ามาเพราะจะต้องมีการสอบปากคำ ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจพื้นที่ช่วยในการสืบสวนขยายผลเรื่องการสอบสวนโรคของกระทรวงสาธารณสุขด้วย จะเห็นได้ว่าในช่วงนี้ทางพรมแดนฝั่งเชียงรายเราทราบว่ามีจุดไหนเป็นจุดเสี่ยงหรือจุดล่อแหลม ก็จะจัดกำลังเข้าไปเสริม รวมถึงการตั้งลวดหนามหีบเพลง การลาดตระเวน กำชับผู้ประกอบการรถขนส่งรถโดยสาร และบุคคลที่อยู่บริเวณชายขอบ ถ้าพบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือช่วยเหลือในการนำพา หรือเข้ามาโดยผิดกฎหมายก็จะผิดในข้อหานำพาฯ มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 1 แสนบาท และถ้าพบว่าเป็นที่ซุกซ่อนคนที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาก็จะผิดมาข้อหาเรื่องซ่อนเร้นฯ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 5 หมื่นบาท

 

เมื่อถามว่ามีคนตั้งข้อสังเกตว่าจะมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจหรือไม่ พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า อย่างที่ทราบว่าใครทำไม่มีความลับ เราเอาผิดดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญา ที่ผ่านมาเคยมีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการขนคนเข้าออกก็จับกุมหมด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆ ไม่ปล่อยสืบจับตลอด ไม่ละเลย ตามทุกคดี

จำกัดพื้นที่ลักลอบแนวชายแดนให้น้อยที่สุด

จำกัดพื้นที่ลักลอบแนวชายแดนให้น้อยที่สุด

จำกัดพื้นที่ลักลอบแนวชายแดนให้น้อยที่สุด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ