ข่าว

"วิชิต"หวังปัดฝุ่นสิ่งก่อสร้าง หลังปล่อยร้างหลายเเห่ง คืนประโยชน์ให้ชาวประจวบฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วิชิต"หวังปัดฝุ่นสิ่งก่อสร้าง หลังปล่อยร้างหลายเเห่ง พร้อมประสานทุกหน่วยฟื้นชีพ คืนประโยชน์ให้ชาวประจวบฯ

นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการเลือกตั้ง นายก อบจ.และสมาชิกสภาจังหวัด(ส.จ.)ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20ธ.ค.นี้นั้น ตนเเละทีมผู้สมัคร ส.จ.ลงพื้นที่เเปดอำเภออย่างต่อเนื่อง ได้ฟังเสียงสะท้อนหลายด้านจากประชาชน ตนจึงหวังว่าหากประชาชนให้ความไว้วางใจตนจะนำปัญหาต่างๆไปเร่งประสานเเก้ไขโดยเร็ว

นายวิชิต  กล่าวว่า ปัญหาด้านเศรษฐกิจเเละปากท้องคือเสียงสะท้อนอันดับต้นๆจากประชาชน ดังนั้นอาคารสถานที่ราชการหลายเเห่งที่ก่อสร้างเเละยังไม่ได้ใช้ประโยชน์เพราะมีการดำเนินการผิดกฎหมายนั้น ควรเร่งบูรณาการกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำมาใช้ประโยชน์โดยเร็ว ตนเคยทราบว่านายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการคณะกรรมการการตรวจเงินเเผ่นดิน(สตง.)เคยบอกกับสื่อมวลชนว่า การตรวจสอบการใช้งบของรัฐนั้น โดยหลักการแล้วจะใช้เกณฑ์ที่เรียกกันว่า 3E คือ ประหยัด (Economy) ประสิทธิภาพ (Effectiveness) และประสิทธิผล (Efficiency) มาเป็นเกณฑ์วัดผลในการตรวจสอบ แต่ในปัจจุบันเกณฑ์ด้านความประหยัดจะถูกแทนที่ด้วยเกณฑ์ด้านความคุ้มค่า (Value for money) ซึ่งแทนที่จะมุ่งเน้นในเรื่องความประหยัดเพียงอย่างเดียว เราก็จะไปดูว่าหน่วยงานของรัฐใช้จ่ายเงินไปแล้วมีความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียหรือไม่แทน ซึ่งถือเป็นการตรวจสอบเพื่อช่วยให้ประเทศชาติใช้จ่ายเงินงบประมาณไปอย่างชาญฉลาด (Helping the nation spend wisely)นั้นตนเห็นด้วย

"สิ่งที่ตนเคยพบในพื้นที่เเละยังติดตามเเก้ไขอยู่คือโครงการท่าเรือร่องน้ำคลองวาฬ อ.เมือง มูลค่า 429 ล้านบาทของกรมเจ้าท่า หลังจากสร้างเสร็จในปี 2549 ถึงวันนี้ยังพบว่าไม่มีองค์กรใดเป็นเจ้าภาพในการบริหารจัดการ ปล่อยทิ้งให้สิ่งปลูกสร้างชำรุด และหลังจากก่อสร้างเสร็จทำให้มีปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในเขตเทศบาลตำบลคลองวาฬอย่างรุนแรง "

นายวิชิต กล่าวว่า รวมทั้งการสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งใช้งบ 60 ล้านบาทจากกรมเจ้าท่า ที่หมู่ 2 บ้านทุ่งประดู่ ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก ปัจจุบันพบว่าผู้รับเหมาเดิมทิ้งงาน 2 ปี ล่าสุดไม่มีการจัดสรรงบเพื่อก่อสร้างให้เสร็จตามเป้าหมาย โดยชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนให้กรมเจ้าท่าเร่งรัดแก้ไขปัญหา

\"วิชิต\"หวังปัดฝุ่นสิ่งก่อสร้าง หลังปล่อยร้างหลายเเห่ง คืนประโยชน์ให้ชาวประจวบฯ

นายวิชิต กล่าวว่า รวมทั้งการสร้างเขื่อนกันคลื่นที่หมู่ 2 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง โดยกรมโยธาธิการเเละผังเมือง ใช้งบ 67 ล้านบาท สร้างเขื่อนริมหาด แต่ถูกศาลปกครองจังหวัดเพชรบุรีสั่งระงับการก่อสร้างชั่วคราวนานกว่า 2 ปีเเล้วโดยก่อนหน้านี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุในการรับฟังความเห็นยืนยันว่าจุดดังกล่าวไม่เคยมีปัญหาการกัดเซาะ ส่วนการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นในเขตเทศบาล ใช้งบจากกรมโยธาฯมากกว่า 100 ล้านบาทพบว่าบางจุดได้รับความเสียหายและก่อนก่อสร้างไม่ได้ส่งโครงการให้สภาเทศบาลเมืองประจวบฯให้ความเห็นชอบและเมื่อสร้างเสร็จแล้วไม่ได้มอบให้เทศบาลดูแล ทำให้ปัจจุบันต้องรองบซ่อมจากหน่วยงานในส่วนกลาง

นายวิชิต กล่าวว่า เเม้เเต่โครงการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย ที่เชิงเขาทุ่งกระต่ายขัง อ.เมืองบริเวณริมถนนเพชรเกษมทั้งฝั่งขาเข้า เเละขาออก บริเวณเชิงเขาทุ่งกระต่ายขัง ที่ก่อสร้างตั้งแต่เดือนกันยายน 2558 จากนั้นมีการปรับสภาพพื้นที่อีกครั้งในจุดเดิม เพื่อใช้งบประมาณปรับปรุงตลาดเพื่อให้เป็นจุดพักรถ และมีการก่อสร้างร้านจำหน่ายสินค้าการเกษตร สินค้าโอทอป ตั้งแต่ต้นปี 2561 แต่ปัจจุบันกลายเป็นตลาดร้างเพราะการก่อสร้างผิดเเบบเป็นต้น

"สิ่งเหล่านี้คือการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนไม่คุ้มค่า เเละอาจผิดกฎหมายบางข้อ ดังนั้นการประสานบูรณาการเพื่อปลดล็อกให้เกิดการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ากับชาวประจวบฯนั้นหากตนได้รับความไว้วางใจจากการเลือกตั้งครั้งนี้ตนจะเร่งประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างข้างต้นให้ปลดล็อกโดนเร็วเพราะชาวประจวบฯเสียโอกาสเหล่านี้มานานเเล้วเเละเรื่องเเบบนี้มันต้องไม่เกิดชึ้นอีกในวันข้างหน้า"นายวิชิต กล่าว

โปรลาซาด้า

\"วิชิต\"หวังปัดฝุ่นสิ่งก่อสร้าง หลังปล่อยร้างหลายเเห่ง คืนประโยชน์ให้ชาวประจวบฯ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ