น้ำท่วมเมืองคอนสังเวยชีวิตแล้ว 22 ราย นอภ.แหวนเพชรน้ำตาซึมฟังชาวบ้านเล่านาทีชีวิต น้ำจมมิดหลังคา

 (6 ธ.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งใหญ่สุดในรอบ 50 ปี แม้ในวันนี้ระดับน้ำจะลดลงเกือบเป็นปกติแล้ว แต่ชาวบ้านยังได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส โดยเฉพาะในเขตตัวมืองนครศรีธรรมราชและ อ.เมืองรอบนอกที่ใช้น้ำประปาเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากประปาหยุดไหลตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2563 จนถึงขณะนี้ยังไม่เปิดใช้บริการ ชาวบ้านผู้ประสบภัยไม่มีน้ำล้างบ้าน ซักเสื้อผ้า อาบชำระล้างร่างกาย หรือแม้แต่ใช้ในห้องน้ำห้องส้วม นับเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด จนเริ่มที่กลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วทั้งเมือง

               สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยส่วนใหญ่กลุ่มเอแกชนและคณะสงฆจะจัดตั้งโรงทานผลิตอาหารกล่องแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยเป็นการเบื้องต้น โดยที่วัดโพธิ์เสด็จมีการจัดตั้งโรงทานต่อจากโรงทานยของวัดเขาพระทอง อ.ชะอวด ที่เข้ามาจัดตั้งโรงทานผลิตข้าวกล่อง เหนียวไห่ทอกดแจกจ่ายประชาชนในหมู่บ่านธารริน หมู่ 8 ต.โพธ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธารรมราช และใกล้เคียงรวมกว่า 2,000 ชุด เมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) และมอบข้าวสารที่เหลือให้กับวัดโพธิ์เสด็จจัดตั้งโรงทานผลิตข้าวกล่องออกแจกจ่ายประชาชนอย่างต่อเนื่อง

 

โดยในเวลา 14.00 น.ได้มีนายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมนายนัฐภาคย์  ไกรนุกูล หรือ “กำนันปาน”กำนัน ต.โพธิ์เสด็จ เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจพ่อครัว แม่ครัวที่ประกอบอาหารข้าวหมู่ทอด แกงหมูคั่วกลิ้ง พร้อมน้ำดื่มออกแจกจ่ายประชาชน  โดยนายอำเภอเมืองได้ร่วมบริจาคสมทบเป็นค่าเครื่องแกง 1,000 บาท หลังจากนั้นได้นำข้าวกล่องจำนวน 100 ชุด เดินทางร่วมคณะของวัดโพธิ์เสด็จออกเยี่ยมเยียนชาวบ้านริมคลองป่ามะพร้าวที่ประสบภัยอย่างหนัก ในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค.ถูกน้ำท่วมสูงจนมิดหลังคา ไร้การช่วยเหลือจากภาครัฐ ไม่มีมีเรือท้องแบนแม้แต่ลำเดียว จะมีก็ทีม อส.ตร.เทวบุรี ที่ประจำอยู่วัดโพธิ์เสด็จ และหน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งได้ระดมเรือกู้ภัยออกไปรับชาวบ้านกลางดึกพบชาวบ้านหนีขึ้นอยู่บนหลังคาซึ่งบางหลังน้ำกำลังจะท่วมมิดหลังคา กู้ภัยและทีม อส.ตร.เทวบุรี เข้าไปช่วยเหลือออกมาพักอาศัยที่วัดโพธิ์เสด็จชนิดรอดตายกันมาได้อย่างหวุดหวิด

               โดยเมื่อชาวบ้านทราบว่านายอำเภอเข้ามาเยี่ยมและแจกข้าวกล่องต่างเข้ามาหาเล่าเหตุการณ์นาทีระทึกน้ำท่วมมิดหลังคาให้ฟังหลายคนร้องห่มร้องใหญ่น้ำตาไหลพราก พร้อมบอกว่าปัญหาเกิดขึ้นเกือบทุกปีแต่ร้องเรียนขอร้องให้ราชการช่วยเหลือทั้งสร้างสะพานข้ามคลองป่ามะพร้าว ขุดลอกคลองป่ามะพร้าว  และเปิดช่องตะแกรงระหว่างถนนเลียบทางรถไปกับคลองเลียบทางรถไป เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วมเหมอนขังชาวบ้านเอาไว้ไม่ไปไหนไม่ได้เลย ต้องข้ามสะพานไม้หมาก และว่ายน้ำไปมุดใต้ตะแกรงเหล็กไปผุดโผล่อีกฝั่งรอดตายมาได้หวิดหวิดเช่นกัน นอกจากนี้ยังนำทวดเฟื้อง แท่นทอง อายุ 96 ปี ใส่กาละลังหนีไปอยู่บ้านญาติ รอดหวุดหวิดเช่นกัน ร้องเรียนขอความช่วยเหลือ ขอความเห็นใจมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี แต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เหมือนชีวิตคนในบริเวณนี้ไร้ค่า

               นางจิรา ขุนทองแก้ว อายุ 52 ปี เล่าเหตุการณ์บอกเรื่องราวใหนายอำเภอเมืองรับฟังด้วยน้ำตานองใบหน้าว่า ในพื้นที่อย่าว่าแต่นายอำเภอหรือหัวหน้าส่วนราชการระดับสูงลงมาดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านเลยแม้แต่กำนันโพธิ์คนเก่าไม่เคยเข้ามาเลย  นายอำเภอถือเป็นข้าราชการระดับสูงคนแรกที่เหยียบเข้ามาในพื้นที่ ตนและชาวบ้านยหลายสิบครัวเรือนอยู่กับอย่างยนากลำบากและประสบภัยน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้รุนแรงมาก ๆ จนทุกคนเกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่มีกู้ภัย และทีม อส.ตร.เทวบุรีและทีมวัดโพธิ์เสด็จ นำเรือเข้ามาช่วยรอดกตายได้อย่างหวุดหวิด ทึกคนไปพักอาศัยอยู่ที่วัดโพธิ์เสด็จ 2 คืนเพิ่งกลับเข้าบ้านได้วันที่ 4 ธ.ค. แต่พบว่าข้าวของในบ้านเสียหายทั้งหมด อยากจะฝากนายอำเภอเรื่องสร้างสะพาน ขุดลอกคลองป่ามะพำร้าว และเปิดช่องตะแกรงเหล็กระหว่างถนนเลียบทางรถไฟกับทางรถไฟเพื่อให้สามารถออกสู่ถนนใหญ่ได้ในยามวิกฤติฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองรับฟังเรื่องที่ชาวบ้านเล่าให้ฟังทำให้นายอำเภอถึงกับน้ำตาซึม ไม่คาดคิดว่าในพื้นที่ อ.เมือง จะมีชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมมรุนแรงมากถึงขนาดนี้ และรับปากว่าทุกอย่าวทุชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือตนจะนำไปเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

               ทางด้านนายไกรศร   วิศิษฏ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าสรุปน้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบ  มีพื้นที่ประสบภัย 23 อำเภอ 165 ตำบล 1,545 หมู่บ้าน 120 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 919,003 คน  323,536 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 22 ราย  บ้านเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ปัจจุบันมีพื้นที่น้ำท่วมขัง รวม 18 อำเภอ รวม 91 ตำบล 704 หมู่บ้าน 92 ชุมชน พื้นที่คลี่คลายอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ลานสกา นบพิตำ ลิชล  ขนอม และ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช

สำหรับผู้จมน้ำเสียชีวิตจากเดิม 20 รายได้รับรายงานเพิ่มอีก 2 รายเมื่อค่ำ 5 ธ.ค.2563 รายแรกนายวราวุฒิ   วรสิงห์ อายุ 38 ปี เดินจมน้ำเสียชีวิตริมถนนที่ถูกน้ำท่วมสูง สายบ้านนายเอื้อน หมู่ 6 ต.ขนาบนาค อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และตกค้างอีก1ราย นายสมจิตร   ทองศรีจันทร์ อายุ 54 ปี ขี่รถ  จยย.พ่วงข้างเสียหลักตกลงข้างทางจมน้ำเสียชีวิตสายบ้านแสงวิมาน-ท่าพระ หมู่ 6 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง เมื่อเย็น3ธค.ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมล่าสุดอยู่ที่ 22  ราย

ขณะที่นายสมพงษ์ มากมณี รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปมอบมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตกรณีประสบภัยน้ำท่วม ณ บริเวณป้อมตำรวจแยกนาพรุ อำเภอพระพรหม จำนวน 2 ให้กับญาติของนางสาวจริยา สังข์อินทรีย์ อายุ 27 ปี และ เด็กชายนฤบดินทร์ สังข์อินทรีย์ อายุ 5 ปี,นายสมบูรณ์   ภาษากล อายุ 51 ปี,นายสมบัติ   สังข์ขาว 51 ปี โดยมอบจำนวนเงิน รายละ 29,700 บาท เงินช่วยเหลือมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จำนวนเงิน รายละ 10,000 บาท เงินช่วยเหลือกระทรวง พม.จำนวนเงิน 5,000 บาทและทยอยเดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้เสียชีวิตรายอื่น ๆ ที่จมน้ำเสียชีวิตพื้นที่ต่าง ๆทั้ง 22  รายต่อไป.

ยุทธนะ  เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช