พ่อแม่ "น้องจูน" นศ.ปี 4 ดีกรีเกียรตินิยมเหยื่อไอ้คลั่งแทงดับ เผยคำพูดสุดท้ายที่ได้คุยกับลูกทั้งน้ำตา

จากกรณีนายอิธิพล  อิ่มผึ่ง  อายุ 31ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 3 ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี   ขี่รถจักรยานยนต์มาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมือง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะขี่รถกลับได้เกิดอาการคลั่ง ใช้มีดแหลมไล่แทงผู้หญิงและเด็กเสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 6 ราย ก่อนถูกตำรวจและอาสากู้ภัยจำนวนมากล้อมจับได้พร้อมมีดปลายแหลม แต่ให้การไม่รู้เรื่องวกไปวนมา อ้างเสพยาบ้ามา 2 เม็ด และเคยป่วยจิตเวช  ก่อนตำรวจนำไปตรวจหาสารเสพติดแต่ไม่พบ และตรวจสภาพจิตหมอบอกว่าปกติ ไม่มีญาติมายืนยันการป่วยทางจิต ตำรวจจึงแจ้งข้อหาหนัก “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”  เหตุเกิดบ่ายวันที่ 5 ธันวาคม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 6 ธันวาคม 2563  เวลา 08.30 น. ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว  นายสุติ หินคำ อายุ 45 ปี และนางนันทนา หินคำ อายุ 52 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 420/1 หมู่ 1 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี พ่อแม่  น.ส.ชลดา หินคำ หรือน้องจูน อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี  1 ใน 2 ผู้เสียชีวิต ถูกนายอิธิพล ไอ้คลั่งไล่แทงเสียชีวิต เหตุเกิดอยู่ หน้าโรงแรมไทยแลนด์โฮเต็ล ขณะนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีเทาดำ ขวพ 543 อุดรธานี

 ออกจาก รพ.ศูนย์อุดรธานี มาตั้งสวดอภิธรรมที่ศาลาพุทธรักษา 1 วัดโพธิสมภรณ์ (อารามหลวง)  เขตเทศบาลนครอุดรธานี  ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก ของญาติ เพื่อน พี่น้องที่เกินทางมาร่วมงานเพื่อไว้อาลัย

นายสุติ พ่อน้องจูน  บอกด้วยเสียงสะอื้นว่า หลังทราบข่าวร้ายครอบครัวถึงกับช๊อคไปเลย เพราะลูกเป็นเด็กดี ขยัน ตั้งใจเรียน เรียนดีมาตลอด  ทราบว่าจะได้เกียรตินิยม ซึ่งกำลังฝึกงานอยู่ที่ธนาคารออมสิน สาขาบงคำ ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี  หลังฝึกงานจบ ลูกบอกว่าธนาคารจะรับเข้าทำงาน น้องจึงเป็นความหวังของครอบครัว ก่อนเกิดเหตุลูกไปกินส้มตำ ที่ตลาดไปอีสานแล้วโดนแทง อยากให้ตำรวจดำนินคดีจนถึงที่สุด

นางนันทนา  บอกทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวมีอาชีพขายปลาทูนึ่งที่ตลาดโพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย ส่วนน้องจูนเป็นคนเล็ก  ลูกเป็นเด็กดี  เรียนดี กำลังจะเรียนจบ และทำงาน เรียนดีได้เกรดเอตลอด แถมยังเป็นคนประหยัด จะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยไหนก็ได้ แต่อยากเรียนที่อุดรธานี เพื่อจะได้อยู่ใกล้ครอบครัว  ก่อนเกิดเหตุลูกมาบอกแม่ว่าจะไปหาเพื่อน จะไปกินส้มตำ แล้วใส่รองเท้าคู่ละ 50 บาท แต่บอกว่ารองเท้าลอกหลุดจะไปซื้อกาวมาติด แต่ใส่ครั้งเดียวก็คุ้มแล้ว แต่ตนไม่คิดว่าจะเป็นลาง เพราะไม่มีลางบอกเหตุอะไร  น้องจูนเป็นความหวังของครอบครัว  เพื่อดูแลพ่อแม่ เพราะเรียนสูงที่สุด เมื่อไม่มีน้องจูนแล้ว ไม่รู้จะหาเงินไปให้ใคร ขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่ประหารคนร้ายให้ตายตกไปตามกัน

น.ส.ดาราพร ก๊กวิลัย อายุ 22 ปี เพื่อนสนิทน้องจูน  บอกว่า น้องจูนเป็นคนเรียนเก่ง เรียนได้เกรด 4.00 น. และได้เกียรตินิยมอันดับ 1  แต่น้องจูนชอบช่วยเหลือเพื่อน เป็นคนมีน้ำใจ เพื่อนต้องการอะไรจะหามาให้หมด หลังทราบข่าวรู้สึกใจหายที่เพื่อนประสบเหตุ เพราะอีก 2 เดือน ฝึกงานเสร็จก็จะเรียนจบแล้ว  ขอให้เพื่อนไปสู่ภพภูมิที่ดี เป็นนางฟ้าบนสวรรค์ เกิดชาติหน้าก็ขอให้ได้เป็นเพื่อนกันอีก

ซึ่งต่อมานายศราวุธ เพชรพนมพร  สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาวางพวงหรีด เพื่อแสดงความเสียใจกับครอบครัว น.ส.ชลดา พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือ  ปลอบใจและให้กำลังครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค  จ.อุดรธานี คมชัดลึก