เปิดโรงแรม 1G1 สวรรค์ของนักท่องราตรี ต้นทางโควิด-19 ระบาดท่าขี้เหล็ก

      โควิด-19 ระบาดใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ก่อนส่งผลกระทบลุกลามถึง จ.เชียงราย , จ.เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัดของประเทศไทยครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเริ่มแพร่ระบาดมาจากสถานบริการในโรงแรม 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเลาะลำน้ำสายกึ่งกลางระหว่างสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 หรือห่างจากจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้นโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก ว่ากันว่าผู้ลงทุนและถือหุ้นกันทั้งหมด 7 คน โดยหุ้นส่วนที่บริหาร ทุกคนจะเรียกเฮียช้าง และหุ้นส่วนที่คอยประสานงานกับฝ่ายรัฐบาล ทุกคนจะเรียกว่า"อะโก" เป็นโรงแรมขนาดกลางสูงประมาณ 4 ชั้น แต่เน้นความเป็นสถานบันเทิงครบวงจรที่หรูหราพุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีฐานะร่ำรวยและบางครั้งต้องการเสพความบันเทิงในทุกรูปแบบ

     ภายในโรงแรมมีทั้งที่พักสระว่ายน้ำ หรูหรา คาราโอเกะ ผับบาร์ ร้านอาหาร อ่างอาบอบนวด  บริการเด็กสาวนั่งดริ้ง ฯลฯ ชั้นล่างให้บริการแบบผับ-บาร์ แต่หากเป็นระดับวีไอพีและต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็จะมีบริการชั้นสอง ก็จะมีคนคอยคุ้มกันการเข้าออกพื้นที่อย่างแน่นหนา ทำนองว่ารักษาความปลอดภัยให้ด้วย ลักษณะห้องบันเทิงมีคาราโอเกะและเด็กนั่งดริ้งร่วม 300 คน โดยคิดค่าบริการดริ้งแรก 900 ดริ้งต่อไป 300 สำหรับสาวไทย ส่วนสาวไทยใหญ่คิดค่าบริการ ดริ้งละ 300 มีบริการเครื่องดื่มและอื่นๆ  ซึ่งพบว่าสาวไทยได้รับความนิยมในหมู่ผู้ไปใช้บริการมากที่สุด นอกจากนั้นจะมียาสวรรค์ประเภทต่างๆไว้คอยบริการอันเป็นที่มาของการลักลอบข้ามฝั่งไปทำงานให้บริการตามจุดต่างๆ ของโรงแรม 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก

     ว่ากันว่าหญิงสาวที่ทำงานภายในผับ บาร์ หรือคาราโอเกะในศูนย์รวมความบันเทิงแห่งนี้ แต่ละคนได้ทิป 3000-10000 บาทต่อคืน ทำให้มีความพยายามจะข้ามไปทำงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยังไม่มีวิกฤตโควิด-19 มีทั้งข้ามไปตามช่องทางปกติด้วยบัตรผ่านแดนชั่วคราว-หนังสือเดินทางระหว่างประเทศ หรือพาสปอร์ต แต่หลายคนก็เลือกข้ามไปตามช่องทางธรรมชาติที่ยังไม่เข้มงวดมากนักเหมือนช่วงเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 จนต้องมีการปิดพรมแดนตลอดแนว เมื่อหาเงินได้ก็ไม่อยากให้ถูกตรวจสอบและไม่ต้องเสียเวลา แต่สามารถใช้เงินจ่ายให้คนนำพาข้ามไปส่งฝั่งไทยได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อลักลอบข้ามฝั่งไปแล้วหากไม่ลักลอบข้ามกลับมาก็จะต้องถูกดำเนินคดีจากทั้งฝั่งไทยและพม่าด้วย

     อย่างไรก็ตาม วิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้หญิงสาวเอนเตอร์เทน 1G1 มีอันต้องลักลอบข้ามแดนกลับไทยมากขึ้น หลังจากมีผู้นำเชื้อรายแรกเข้าไปติดกับพนักงานสาวแหล่งบันเทิง 1G1 ชาวพม่าอายุ 20 ปีคนหนึ่งและตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะระบาดไปทั่วโรงแรมจนมีข่าวว่าพนักงานติดเชื้อไม่น้อยกว่า 17 คน รวมถึงสาวไทยอายุ 29 ปี ที่กลับตรวจพบเชื้อที่เชียงใหม่ 1 ราย และสาว อ.ขุนตาน จ.เชียงราย วัย 23 ปี กับสาวชาวพะเยาวัย 26 ปี ฯลฯ คาดว่าปัจจุบันยังมีหลายคนยังพยายามลักลอบข้ามมายังฝั่งไทย เพราะหลังเกิดวิกฤตทางการพม่าได้สั่งปิดโรงแรม 1G1 ไปแล้ว หรือแม้แต่สถานบันเทิงอื่นๆ ก็ปิดด้วย แม้แต่ร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ ก็จำกัดเวลาให้บริการ และมีการตั้งด่านตรวจคัดกรองทั่วเมือง ด้านการข้ามเข้าออกแดนตามปกติก็ทำไม่ได้ในช่วงนี้ด้วย ทำให้หลายคนติดอยู่ตามหอพักต่างๆ และหญิงสาวชาวไทยที่ยังคงติดค้างอยู่ในโรงแรม 1G1 กำลังลงทะเบียนกับสถาทูตไทยเพื่อขอกลับประเทศไทย

บัณฑิตย์  พันธ์พลากร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เชียงราย