จับตา "โควิด19" ทะลักกลางกรุงฯ

 จากกรณีกลุ่มคนไทยที่ลักลอบเข้าไปทำงานสถานบันเทิงใน อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งต่อมาหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "เชื้อโควิด19" ในประเทศเมียนมา เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้คนไทยจำนวนมาก ต่างลักลอบข้ามพรมแดนกลับเข้ามาในประเทศไทย ตามช่องทางธรรมชาติ  โดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง  
 

 กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ฯ ได้มีการตรวจพบหญิงสาววัย 29 ปี มีอาการติดเชื้อโควิด19 ซึ่งแอบลักลอบข้ามแดนกลับเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่  และยังพบหญิงสาววัย 26 ปี ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในย่านอุดมสุข ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่แอบลักลอบข้ามแนวชายแดน และล่าสุดยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย ในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อที่แอบลักลอบข้ามแนวชายแดน กว่า 10 ราย 
 

  อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร เริ่มมีความวิตกกังวนถึงการแอบลักลอบเข้าประเทศของกลุ่มคนไทย ผ่านตามแนวชายแดน ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ๆ และหากมีการระบาดเกิดขึ้นก็อาจส่งผลกระทบในหลายๆด้าน 

 เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชลิต บุญสุข เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วรู้สึกกลัวว่า เชื้อโควิด19 จะกลับมาระบาดอีกครั้ง ทั้งนี้ อยากให้แต่ละคน มีความรับผิดชอบ มีวินัย ในการป้องกันตัวเอง หรือช่วยกันระแวดระวังในการควบคุมโรค อย่างกรณีหญิงสาวที่ลักลอบข้ามแดน ที่กำลังตกเป็นข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ส่วนตัวรู้ว่าเขาอยากกลับบ้าน แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็ควรทำการกักตัวเองตามมาตรการที่ภาครัฐฯ กำหนด และไม่ควรออกไปเดินเที่ยวจนเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ 
 

 ขณะที่ น.ส.ลัดดาวัลย์ ลาภนญ เจ้าของร้านเจ๊เตี๋ยว ย่านหัวลำโพง เปิดเผยว่า เมื่อได้รับทราบข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ก็เริ่มเกิดอาการเครียด เพราะกลัวว่าเจ้าเชื้อมรณะนี้ จะกลับมาระบาดระลอกที่สองในกรุงเทพฯ ซึ่งหลังจากเกิดการระบาดรอบแรก ตอนนี้แม้ว่าจะค้าขายได้ตามปกติ แต่หลายๆอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป ทั้งเรื่องรายได้ และจำนวนลูกค้า ซึ่งย่านนี้จะมีเกสต์เฮ้าส์อยู่เยอะ ลูกค้าส่วนหนึ่งก็จะเป็นชาวต่างชาติ แต่พอหลังจากในช่วงที่มีการปิดประเทศ ลูกค้าต่างชาติก็จะหายไปหมดเลย ถ้ามีการระบาด แล้วต้องมีการประกาศเคอร์ฟิวส์แบบครั้งก่อนอีกรอบ ก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรต่อไป ซึ่งแต่ละคนยังไม่มีการควบคุม หรือดูแลตัวเองที่ดี ก็จะทำให้การแพร่ระบาดของเชื้อเป็นไปอย่างรวดเร็ว 

 ส่วนทางด้าน นายฉันทรัชต์ คงเจริญ เจ้าของร้าน 3house ย่านถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ ก็รู้สึกกลัวนะ แต่ไม่ได้กลัวมากทีเดียว เรื่องการป้องกันทางร้านยังคงทำปกติ มีเจลล้างมือให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ทางเรายังพอรู้บ้างว่าใครไปไหน หรือทำอะไรมา ดังนั้น จึงไม่ค่อยกังวลมากนัก 
ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว ครั้งที่มี "ดีเจ"ติดโควิด ทำให้ร้านต่างๆในถนนข้าวสาร ต่างต้องสูญเสียรายได้ไปเยอะมาก ในต่างประเทศเกิดการระบาดระลอกสอง หรือระลอกสาม กันหลายประเทศ ซึ่งในส่วนของประเทศไทย ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะถ้าแต่ละคนจะรู้สึกกลัว ก็พอจะเข้าใจได้ 

 "ช่วงที่มีการระบาดก่อนหน้านี้ เชื่อว่าทุกคนต่างก็ได้รับผลกระทบกันมาเยอะ ฉะนั้น หากเกิดระบาดรอบสองอีกครั้ง เชื่อว่าผู้ประกอบการ หรือเจ้าของกิจการหลายราย อาจถึงขั้นต้องปิดตัวไปเลยก็ได้ เพราะทุกวันนี้เหมือนกับว่า ทำเพื่อประคองตัวมากกว่า หรือดำเนินธุรกิจแบบเพื่อไม่ให้เจ็บตัว เท่านั้นก็ถือว่าโชคดีแล้ว"