ชาวสวนออกกรีดยางกลางดึก ถูกช้างป่าภูวัวไล่ทำร้ายสาหัส

ช้างป่าภูวัวยังดุทำร้ายชาวสวนที่ออกกรีดยางตอนกลางคืน เห็นช้างระยะประชิดตัววิ่งหนีหวังเอาตัวรอด แต่หกล้มถูกช้างใช้เท้ากระทืบหน้าอก ภรรยาตั้งสติได้ใช้มีดเคาะถ้วยยาง พร้อมกับร้องขอชีวิตให้สามีว่าแค่นี้ก็บาดเจ็บหนักแล้ว ช้างเหมือนจะรับรู้จึงเดินจากไปรอดตายหวุดหวิด ซึ่งก่อนหน้านี้หนึ่งวันช้างป่าภูวัวก็ได้ทำร้ายพระธุดงค์จนมรณภาพ ส่วนหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว รุดเยี่ยมผู้บาดเจ็บพร้อมฝากเตือนหน้าหนาวช้างตกมัน ออกกรีดยางให้ระมัดระวังพิเศษ

เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 30 พ.ย. หน่วยกู้ภัยได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการจังหวัดบึงกาฬ (1669) ให้ออกรับผู้บาดเจ็บถูกช้างป่าทำร้ายขณะเข้าไปกรีดยางพารา ที่ทางขึ้นวัดถ้ำโขง บ้านถ้ำพระ หมู่ที่ 9 ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ  หน่วยกู้ภัยพร้อมอาสากู้ภัยสว่างศรีวิไลฯ (จุดโสกก่าม) จึงประสานไปยังนายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าป่าภูวัวและผู้ใหญ่บ้าน ให้นำพาเข้าไปรับตัวผู้บาดเจ็บ ที่นอนร้องครวญครางอยู่ในสวนยาง ทราบชื่อนายสุพัฒน์ กลอนสลับ อายุ 33 ปี อาศัยอยู่ หมู่ที่ 9 บ้านถ้ำพระ สามีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนางไพรมณี ชัยรัตน์ อายุ 37 ปีภรรยา ปลอดภัย ผู้บาดเจ็บรู้สึกตัวดีแต่มีอาการแน่นหน้าอกและเจ็บหลัง นอนรอรับการช่วยเหลืออยู่ อาสากู้ภัยฯ ทำการประเมินอาการและปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บส่ง รพ.บึงโขงหลงทันที

นางไพรมณี ภรรยานายสุพัฒน์ หนุ่มเคราะห์ร้ายที่โดนช้างเหยียบแต่แค่บาดเจ็บสาหัส เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพารา ห่างจากหมู่บ้าน 200 เมตร ปกติแล้วช้างป่าลงมาเป็นประจำ เดินตามถนนบ้าง หรือมาในป่าก็จะส่งสัญญาณมาก่อน แต่ตัวที่ทำร้ายสามีมาแบบเงียบๆ ไม่มีเสียงและมาเพียงตัวเดียว เดินปรี่เข้ามาหาแสงไฟโคมที่อยู่บนหัวของสามี เมื่อมาใกล้ช้างยกขาหน้าทั้งสองกระทืบลงพื้นดินอย่างแรง พร้อมกับส่งเสียงร้องแปร๋นแปร๋น สามีหันมาร้องบอกตนที่กรีดยางอยู่คนละแถวว่าช้างมาแล้ว พอหันไปดูเห็นช้างอยู่ห่างจากสามีไม่ถึง 2 เมตร สามีก็รีบวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่เสียหลักล้มลงจึงถูกช้างใช้เท้ากระทืบ ตัวเองตั้งสติได้รีบคว้าถ้วยยางขึ้นมาใช้มีดกรีดยางเคาะให้เกิดเสียงดัง พร้อมกับร้องขอชีวิตให้สามีว่าแค่นี้ก็บาดเจ็บหนักแล้ว ออกจากบ้านมาหากินไม่ได้มารบกวนหรือทำร้าย ว่าแล้วช้างก็เดินเข้าป่าไปเหมือนจะรับรู้สิ่งที่เราพูดออกไป ทำให้สามีรอดตายได้หวุดหวิด ก่อนที่จะโทรแจ้ง 1669 ให้มารับตัวไปรักษาตัวที่ รพ.บึงโขงหลง

ด้านนายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เข้าเยี่ยมนายสุพัฒน์ กลอนสลับ และนางไพรมณี ชัยรัตน์ ภรรยา ที่โรงพยาบาลบึงโขงหลง พร้อมมอบกระเช้าและเงินเยียวยาจำนวนหนึ่ง โดยได้กล่าวว่าต้องขออภัยแทนสัตว์ป่าด้วย ทุกฝ่ายไม่อย่างให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องดูแลกัน วันไหนหายดีออกจาก รพ.ก็ให้แจ้งจะได้ให้เจ้าหน้าที่เอารถมารับไปส่งที่บ้าน ส่วนเรื่องช้างป่าทำร้ายคนมีทุกปี เพราะนั้นก็ขอให้ระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งทางเขตฯ จะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และหาทางร่วมกันกับชาวบ้านเรื่องคนกับช้างต่อไป ก็อยากฝากถึงชาวบ้านว่าช่วงนี้หน้าหนาว ซึ่งส่วนใหญ่ช้างจะตกมัน การที่จะออกไปทำมาหากินใกล้แนวเขตภูวัว จะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น กลางคืนก็ควรก่อไฟไว้ เพราะสัตว์ป่ากลัวไฟ แต่ก็ต้องระวังไฟไหม้ป่าด้วย หรือจะใช้แผ่นซีดีมาแขวนไว้ให้เกิดแสงสะท้อน เมื่อถูกแสงไฟก็จะไปกระทบต่อสายตาของช้างป่า มันจะทำให้ช้างกลัวไม่เข้ามาใกล้ อีกอย่างก็คือการคั่วพริกแห้ง เมื่อช้างได้กลิ่นมันก็จะหลบไป สุดท้ายได้แจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน ให้ประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านได้เข้าใจ อย่าไปเงียบๆ คนเดียวถ้าใครจะออกไปกรีดยางกลางดึกให้แจ้งเจ้าหน้าที่ จะพาเข้าไปกรีดยาง ดูแลความปลอดภัยให้ หรือให้เปลี่ยนเวลากรีดยางให้เร็วขึ้นก่อนหัวค่ำ หรืออาจจะเป็นเวลากลางวันก็ได้.

(ภาพข่าวบางส่วนจาก กู้ภัยสว่างศรีวิไล)

นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บึงกาฬ 

#โปรดีๆ ลดต่อเนื่อง จากลาซาด้า ไม่ซื้อได้ไง คลิกเลย