หลงตัวเอง เหตุผลทางจิตวิทยา ทำให้ทรัมป์ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่เป็น 

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐผ่านมากว่าสัปดาห์ แม้ในบางรัฐยังนับคะแนนไม่เสร็จ แต่โจ ไบเดน ได้รับการเอ่ยถึงว่าเป็น ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ หลังผลตรวจนับคะแนนเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ชนะเลือกตั้งในรัฐชี้ขาดเกือบทั้งหมด มีคะแนนผู้เลือกตั้งเกินเกณฑ์ที่ต้องได้ 270 เสียง จาก 538 คะแนน นอกจากนี้ ไบเดนยังได้รับคะแนนเสียงโดยตรงจากประชาชน หรือ ป๊อปปูลาร์ โหวต มากกว่าทรัมป์กว่า 5 ล้านคะแนน แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังเดินหน้าอ้างลอยๆว่า มีการโกงเลือกตั้ง และพยายามใช้ช่องทางกฎหมายในการต่อสู้ ทั้งที่ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายจำนวนมากฟันธงว่าโอกาสจะพลิกสถานการณ์แทบเป็นไปไม่ได้เลย 

เอวิตา มาร์ช นักวิชาการอาวุโสด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัย เฟเดอเรชัน ออสเตรเลีย แสดงความเห็นผ่านบทความเผยแพร่บนเวบไซต์ The Conversation ว่า เหตุที่ทรัมป์ปฏิเสธท่าเดียว อาจเป็นเหตุผลด้านจิตวิทยา อาการที่เรียกว่า หลงตนเองแบบคิดว่ายิ่งใหญ่และสำคัญ( grandiose narcissism ) อาจเป็นส่วนหนึ่งในการอธิบายการไร้ความสามารถที่จะยอมรับว่าตนเองไม่ใช่ผู้ชนะ 
 

มาร์ช กล่าวว่า คนที่มีบุคลิกภาพเช่นนี้มักเป็นคนที่ชอบแข่งขัน มีอำนาจเหนือ และมีภาพบวกกับตัวเองเกินจริงทั้งในแง่ความรู้ ความสามารถและคุณสมบัติอื่นๆ  

ผู้ที่หลงตนเองแบบคิดว่ายิ่งใหญ่และสำคัญ ยังมักมีความนับถือตัวเอง  ให้คุณค่าตัวเองเกินตัว  อ้างเครดิตเมื่อมีผลสำเร็จ  และถือว่าความล้มเหลวของตัวเองเป็นเพราะข้อบกพร่องของคนอื่น “การอยู่เหนือคนอื่น ปฏิเสธความอ่อนแอ และมีแนวโน้มด้อยค่าผู้อื่น นำไปสู่การขาดการทำความเข้าใจกระทั่งว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพ่ายแพ้” นอกจากนี้ เมื่อเผชิญกับสิ่งท้าทายและเพลี่ยงพล้ำ  คนที่หลงตัวเองในรูปแบบนี้มักจะแสดงปฏิกริยาทางลบและตอบสนองอย่างเป็นศัตรู 

อีกเหตุผลที่เป็นไปได้ที่ทำให้ทรัมป์ยังดื้อแพ่ง  อาจเป็นอาการที่เรียกว่า ภาวะการรับรู้ไม่ลงรอย (cognitive dissonance) ที่จะเกิดขึ้นเวลาที่คนเชื่ออย่างหนึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ไม่ได้สอดคล้องกัน พยายามหาเหตุผลชอบธรรมให้กับพฤติกรรมหรือเพิกเฉยหลักฐานต่างๆ เมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่สอดคล้องกับทัศนคติและความเชื่อของตนเอง