ผบ.ทบ.ชี้ผู้ชุมนุมเดินทางไปสถานศักดิ์สิทธิ์ ลั่น หากเกิดความเสียหายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ

พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก หรือ นขต.ทบ. (วาระปกติ) ว่า วันนี้เรื่องที่ชี้แจงกันในที่ประชุมเรื่องที่สำคัญคือการขอบคุณหน่วยกองกำลังป้องกันชายแดนในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดที่ลักลอบเข้ามา จะเห็นได้ว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในส่วนของกองทัพได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถจับยาบ้าได้มากกว่า 10 ล้านบาท ไม่รวมยาเสพติดชนิดอื่น

นอกจากนี้ยังมีเรื่องภัยจากโควิด-19ที่ยังต้องเข้มงวด โดยเฉพาะผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่จะนำมาซึ่งโรคโควิด-19 อีกทั้งในเรื่องของการเน้นย้ำในเรื่องของการดูแลทหารใหม่ในช่วงนี้โดยเฉพาะที่ตนไปตรวจเยี่ยมภาคใต้ถือโอกาสนี้ไปชายแดนใต้ ไปตรวจเยี่ยมหน่วยงานทหารต่างจังหวัดในแต่ละพื้นที่ เช่น สตูล กระบี่ ตรัง บางจังหวัดมีอาณาเขตติดชายแดน มาเลเซียเพียง 15 กิโลเมตร และได้พูดคุยกับน้องทหารใหม่ซึ่งต่างก็มีขวัญกำลังใจดี อาหารการกินดี พร้อมสิทธิต่างๆที่ชัดเจน นอกจากนี้ open house ยังทำให้ญาติพี่น้องไม่เกิดความกังวลเหมือนในอดีตที่ผ่านมา 

ส่วนในเรื่องที่พลทหารพิชวัฒน์ เวียงนนท์ ที่ผูกคอเสียชีวิตภายในคุกทหาร กองรักษาการณ์ ค่ายประเสริฐสงคราม จ.ร้อยเอ็ด พล.อ. ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริงตามกฏหมาย ทหารบกไม่มีการปกป้องผู้กระทำผิด ในเรื่องพลทหารตอนนี้มี2เคส คือ ผูกคอตายเสียชีวิตในที่ควบคุม ซึ่งกองทัพบกปฏิเสธไม่ได้เมื่อผู้เสียชีวิตอยู่ในความควบคุม จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จึงถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รักษาการที่รับผิดชอบ แต่สาเหตุทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องสืบสวนให้มีความชัดเจน ทั้งนี้ทางกองทัพบกรู้สึกเสียใจและพร้อมจะช่วยเหลือดูแลครอบครัว ส่วนอีกเคสมีการทำร้ายในเรือนจำจนเสียชีวิต ซึ่งขัดกับนโยบายของกองทัพบก แต่ก็ยังเกิดขึ้น ฉะนั้นคนกลุ่มนี้ต้องถูกดำเนินการทางกฏหมายทหารคือขึ้นศาลทหาร ขณะเดียวกัน ส่วนตัวได้สั่งการไปยังทบ.ทุกหน่วยว่าให้พาญาติพี่น้องไปแจ้งความดำเนินคดีอาญา

ส่วนในเรื่องของการชุมนุมของคณะราษฎร2563 ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าเมื่อวานนี้ผู้ชุมนุมนั้นจะมุ่งไปสู่พระบรมมหาราชวัง ศาลหลักเมือง และ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หากเกิดความเสียหายขึ้นมา ถามว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบ ทั้งนี้ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมกับฝ่ายความมั่นคงได้พูดคุยกันมาตลอดว่า จะชุมนุมกันอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธและความรุนแรง แม้ว่าการชุมนุมนั้นเป็นการชุมนุมที่ผิดพระราชกำหนดการชุมนุม แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็มีความประนีประนอม ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางคนพยายามจะให้เกิดความรุนแรง แต่ทางเจ้าหน้าที่ต้องควบคุมให้ได้ เพราะหากเกิดความรุนแรงขึ้นเมื่อไหร่ประเทศไทยจะถอยลงทันที

ท้ายนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการรัฐประหาร พล.อ. ณรงค์พันธ์ ไม่ตอบ พร้อมเดินออกจากห้องแถลงไป

โปรลาซาด้า