ชาวบ้านร้องทุกข์นายทุนและผู้มีอิทธิพลขออนุญาตขุดดินแต่แท้จริงทำบ่อดูดทรายทำชาวบ้านเดือดร้อน ความทุกข์ราษฎรแว่วเข้าหูเจ้าเมืองชาละวัน สั่งการฝ่ายปกครอง-ป้องกันจังหวัด-ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบใบอนุญาต เบื้องต้นสั่งหยุด ห้ามขุด ห้ามขนย้าย จนกว่าจะทำให้ถูกต้อง
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้รับการร้องทุกข์จากราษฎรหมู่ 1 ต.ท่าขมิ้น อ.โพทะเล ว่าขณะนี้ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมีนายทุนและผู้มีอิทธิพล มาดำเนินการขุดดินและดูดทรายใต้ดิน เป็นบ่อใหญ่และลึกมากใกล้กับทางสาธารณะ รวมถึงมีการรุกล้ำลำรางสาธารณะ อีกทั้งรถสิบล้อบรรทุกดิน บรรทุกทราย เกินน้ำหนัก ทำให้ถนนพังและเกิดฝุ่นละอองเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและทำลายสุขภาพของชาวบ้าน ซึ่งหลังจาก ผู้ว่าฯพิจิตร รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจึงได้สั่งการเร่งด่วนไปยัง นายสุพจน์ รัตนรุ่งเรือง รักษาการนายอำเภอโพทะเล และนายเขม คงสินชัย ป้องกันจังหวัดพิจิตร ให้ประสานไปยัง พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพทะเล ซึ่งมอบหมายให้ ร.ต.อ.ประชัญ เขียวปั้น รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพทะเล ร่วมกันลงพื้นที่ ซึ่งก็พบว่าบริเวณดังกล่าวมีการขุดพื้นที่ดำเนินการดูดทรายในที่ดิน 3 แปลง คือ แปลงที่ 1 เนื้อที่ 18 ไร่ 2 งาน 39 ตารางวา แปลงที่ 2 เนื้อที่ 15 ไร่ 74 ตารางวา แปลงที่ 3 เนื้อที่ 9 ไร่ 92 ตารางวา ซึ่งแปลงที่ 1 และ แปลงที่ 2 หยุดดำเนินกิจการ แต่แปลงที่ 3 เพิ่งเข้าดำเนินการเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา โดยทุกแปลงขออนุญาตกับ อบต.ท่าขมิ้น ว่าจะดำเนินการขุดดินเท่านั้น ซึ่งตามกฎหมายการขุดดินลึกไม่เกิน 3 เมตร สามารถทำได้ โดยไม่ต้องให้กองช่างของ อบต. เขียนแบบแปลน แต่ถ้ามีการขุดลึกเกิน 3 เมตร แต่ไม่เกิน 7 เมตร ต้องมีการเขียนแบบขออนุญาตรวมถึงต้องกันแนวเขตห่างจากที่ดินข้างเคียงอย่างน้อย 14 เมตร ซึ่งจากการเข้าตรวจพบว่าทั้ง 3 แปลง ดำเนินการไม่เป็นไปตามคำขอกับทาง อบต.ท่าขมิ้น จึงได้เชิญ นายวุฒิพงษ์ กล้วยหอมทอง กำนันตำบลท่าขมิ้น, นายนิตินัย ธีภู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ท่าขมิ้น, นายสมเกียรติ นิลเนียม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ท่าขมิ้น, นายสมชาย อินทร์รอด ส.อบต.หมู่ 1 ต.ท่าขมิ้น ให้เข้ามาร่วมในการตรวจสอบ รวมถึงเล่าถึงปัญหาที่เกิดความเดือดร้อนกับราษฎรที่เป็นเหตุร้องทุกข์ร้องเรียนไปยัง ผู้ว่าฯพิจิตร จนเป็นเหตุให้ส่วนราชการต้องเข้าตรวจสอบในครั้งนี้
โดยในส่วนของ นายเส กล่อมกำเนิด ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการขุดดินบ่อที่ 3 ได้ชี้แจงว่าตนเองเป็นผู้ควบคุมเครื่องจักรมาทำการขุดดินปนทรายที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งได้เคยไปขออนุญาตที่ สนง.อุตสาหกรรมจังหวัดเพื่อจะขอใบอนุญาตทำบ่อทราย แต่อุตสาหกรรมพิจิตร ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ เนื่องจากอ้างว่าการจะดำเนินธุรกิจทำบ่อทรายหรือดูดทรายจากใต้ดินจะต้องมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 40 ไร่ จึงทำให้ไม่ได้ขออนุญาตดูดทรายดังกล่าว อีกทั้งกล่าวพาดพิงว่าในตำบลท่าขมิ้นมีนายทุนมาทำการขุดดิน ดูดทราย ในลักษณะเดียวกับของตนรวมแล้วประมาณ 8-10 แห่ง ก็ล้วนผิดด้วยกันแทบทั้งนั้น แต่ทำไมฝ่ายปกครอง-ตำรวจ จึงมาดำเนินการกับตนเพียงผู้เดียว จึงเรียกร้องขอความเป็นธรรมและขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐอย่าเลือกปฏิบัติ แต่ถ้าจะให้ตนและนายจ้างของตนให้ความร่วมมือในสิ่งใดที่ทำได้ก็พร้อมจะปฎิบัติไม่ดื้อดึงแต่อย่างใด
ซึ่งหลังจากการลงพื้นที่และตรวจสอบเอกสารใบอนุญาตเบื้องต้น ฝ่ายปกครอง –ตำรวจ ได้สั่งให้ผู้ประกอบการรายนี้หยุดการดำเนินการไปจนกว่าจะขออนุญาตให้ถูกต้องส่วนความผิดหรือการกระทำผิดว่าจะเข้าข่ายข้อกฎหมายใด ก็คงจะต้องรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาให้สั่งการและดำเนินการต่อไป อีกทั้ง พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพทะเล ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แนะนำว่า อบต.ท่าขมิ้น ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของรัฐควรเข้าดำเนินการแจ้งความเพื่อจะได้เป็นโจทก์ให้ตำรวจเข้าสอบสวนดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
สิทธิพจน์ เกบุ้ย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.พิจิตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง