ชายรัสเซียที่ขุดร่างเด็กไปแต่งตัวเป็นตุ๊กตา ไม่ยอมขอโทษพ่อแม่ แม้ไปขโมยร่างลูกของพวกเขามาทำเป็นของสะสม
เรื่องราวของอนาโตลี มอสควิน นักประวัติศาสตร์ นักเดินทาง และนักเขียนชื่อกระฉ่อนชาวรัสเซีย จากการขโมยขุดศพเด็กหญิง 29 รายขึ้นมาจากหลุม เพื่อมาทำเป็นตุ๊กตามัมมี่ กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน ในการพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวจากโรคพยาบาลจิตเวช เพื่อไปใช้ชีวิตกับเพื่อนหญิงคนใหม่ แต่หนุ่มใหญ่วัย 53 กลับไม่ใช้โอกาสนี้พูดขอโทษพ่อแม่ของเด็กหญิงเหล่านั้น
มอสควิน ชาวเมือง Nizhny Novgorod ได้ชื่อว่าเป็นอัจริยะคนหนึ่ง พูดได้ถึง 13 ภาษา ขุดศพเด็กหญิงมาแต่งตัวใหม่ สวมถุงเท้า เสื้อผ้า รองเท้าบู้ท เขียนหน้าทาปาก บางรายติดกล่องดนตรีหรือของเล่นเด็กเปิดเสียงได้ไว้ที่หน้าอก มอสควินจัดงานฉลองวันเกิดให้กับร่างเด็กหญิงในห้องนอนของเขาด้วย นางเอลวีรา วัย 77 แม่ของมอสควินที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์เดียวกัน กล่าวว่า เธอกับสามีเคยเห็นตุ๊กตา แต่ไม่เคยรู้ว่าแท้จริงเป็นศพ เราคิดว่าการทำตุ๊กตาตัวใหญ่ เป็นงานอดิเรกของลูก ไม่ได้เอะใจเป็นเรื่องผิด
ขณะเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวจากรพ.จิตเวช เพื่อไปดูแลแม่แก่ชรา และใช้ชีวิตกับเพื่อนหญิงคนใหม่ นักขโมยศพเด็กไม่พูดขอการให้อภัยจากพ่อแม่ของเหยื่อ โดยเขากล่าวว่า เด็กหญิงเหล่านั้นก็คือเด็กหญิง ในความคิดของเขา ไม่มีพ่อแม่ เขาไม่รู้จักคนเหล่านั้น “นอกจากนี้ เมื่อพวกเขาฝังศพลูกสาวตัวเอง นั่นเป็นจุดที่ผมเชื่อว่าสิทธิในตัวพวกเธอได้หมดลงแล้ว ดังนั้น ผมจะไม่ขอโทษ”
มอสควิน กล่าวด้วยว่า เขาอยากเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้เด็ก หลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน มีดำริส่งเสริมการสอนภาษาต่างประเทศในโรงเรียน ทั้งนี้ ในสมัยสหภาพโซเวียต มอสควินเคยเป็นนักแปลให้กับหน่วยข่าวในกองทัพแดง และต่อมา เขียนหนังสือประวัติศาสตร์หลายเล่ม
มอสควิน ถูกจับกุมในปี 2554 และสารภาพความผิดข้อหาละเมิดหลุมศพเด็กหญิงอายุ 3-12 ปี รวม 44 กระทง ก่อนหน้านั้น เขาบอกพ่อแม่เหยื่อว่า “พวกคุณทอดทิ้งลูกสาวของตัวเองอยู่ในความหนาวเย็น ผมแค่พาพวกเขากลับบ้านและให้ความอบอุ่น”
ศพเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ชื่อ โอลกา ชาร์ดีโมวา เป็นหนึ่งใน 29 ศพเด็กที่ถูกขุดขึ้นมา และจับแปลงโฉมเป็นตุ๊กตามัมมี่ นางนาตาเลีย ชาร์ดีโมวา วัย 46 ปี ที่ไปเยี่ยมหลุมศพลูกสาวเป็นประจำ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าโลงศพว่างเปล่าเป็นคนหนึ่งที่คัดค้านการปล่อยตัวมอสควิน โดยระบุว่าชายคนนี้นำมาซึ่งความน่าสะพรึงกลัวและตื่นตระหนก เข้ามาในชีวิตของเธอ และต้องการให้ขังเขาไว้ตลอดไปในรพ. เพื่อให้เธอมีโอกาสปักป้ายชื่อบนหลุมศพลูกสาว หากปล่อยตัวออกมา คงต้องปล่อยให้เป็นหลุมศพนิรนามเพื่อป้องกันมอสควินหาหลุมศพเจอ
คณะกรรมการทางการแพทย์ชุดหนึ่ง เสนอแนะให้ปล่อยตัวเขาได้ อ้างว่า โรคจิตเภทที่เขาเป็นได้รับการรักษาแล้ว แต่ศาลไม่เห็นด้วย และสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งขยายเวลากักตัวในรพ.จิตเวชครั้งใหม่ต่อไปอีก 6 เดือน
ที่มา Daily Mail
ข่าวที่เกี่ยวข้อง