ฆาตกรคดีสะเทือนขวัญที่สุดในเกาหลีใต้ รับสารภาพครั้งแรกในศาลปลิดชีวิตเด็กและผู้หญิง 14 ศพ เซอร์ไพรส์ไม่โดนจับเร็วกว่านี้ ไม่รู้ทำไมไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย
อี ชอน แจ ชายเกาหลีใต้วัย 57 ปีผู้อยู่เบื้องหลังฆาตกรรมและข่มขืนสตรีและเด็กหญิง 14 ศพ ในเมืองฮวางซ็อง จ. คยองกี เมื่อ 3 ทศวรรษที่แล้ว ปรากฎตัวในศาลที่เมืองซูวอน จ.คยองกี เมื่อวาน(2 พ.ย.) ยอมรับว่า เป็นคนลงมือฆ่าเหยื่อทั้ง 14 ราย พร้อมกล่าวขอโทษเหยื่อ คนที่ต้องตกเป็นเป้าสอบสวนและตกเป็นแพะในความผิดที่เขาก่อขึ้น
นายอี ขึ้นศาลในฐานะพยาน ขณะศาลเปิดการพิจารณาคดีใหม่เพื่อล้างมลทินให้กับยูน ซอง โย ที่ต้องตกเป็นแพะรับบาป และติดคุกนานถึง20 ปีในเหตุฆาตกรรมเด็กหญิงวัย 13 ปี ในปี 2531 เหยื่อรายหนึ่งของฆาตกรตัวจริง
ยูน ซอง โย วัย 53 ได้รับการปล่อยตัวในปี 2561 ซึ่งต่อมา ตำรวจเกาหลีใต้ยอมรับว่า ยูนถูกบังคับให้สารภาพ ขณะตำรวจในเวลานั้นไม่สามารถหาคนร้ายตัวจริงมารับผิดในเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องที่ถูกตั้งชื่อ “นักรัดคอฮวาซ็อง”
ระหว่างให้การในศาล อี ชอน แจ กล่าวว่า เขาฆาตกรรมสตรี และด.ญ. 14 รายในเมืองฮวาซ็อง ช่วงปี 2529-2534 ทุกรายถูกพบในสภาพถูกมัดมือ ปิดปากและข่มขืน เหยื่อส่วนใหญ่ถูกรัดคอด้วยเสื้อผ้าของพวกเขาเอง โดยมากเป็นเสื้อชั้นใน เหยื่อรายแรกอายุ 71 ปี มีสองรายอายุ 14
ยูน ยื่นประท้วงยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองหลายครั้ง แต่เพิ่งประสบความสำเร็จ หลังหลักฐานดีเอ็นเอใหม่เมื่อปีที่แล้ว ยืนยันว่าเขาไม่ใช่ฆาตกร แต่เชื่อมโยงไปที่นายอี ซึ่งเป็นนักโทษในเรือนจำอยู่แล้ว จากคดีฆาตกรรมน้องสะใภ้วัย 18 เขาถูกตัดสินประหารในเดือนพ.ค.2537 แต่ได้รับลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิตในปีถัดมา
Yonhap/Korea Herald
เมื่อถูกถามว่า รอดจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการสอบสวนตั้งแต่แรกมาได้อย่างไร อี บอกในศาลว่า “ผมไม่เข้าใจเหมือนกัน อาชญากรรมหลายครั้งเกิดขึ้นใกล้ๆ และผมก็ไม่ได้พยายามปกปิดอะไรท่าไหร่ ดังนั้นผมคิดว่าคงจะถูกจับได้ไม่ยาก มีตำรวจมากมายหลายร้อย ผมพบเจอพนักงานสอบสวนตลอดเวลา แต่พวกเขามักทำแค่ถามผมเกี่ยวกับคนใกล้ๆตัว”
อี ชอน แจ เคยถูกคุมตัวด้วยช่วงหนึ่งแต่ในฐานะไม่พกบัตรประจำตัว และได้รับการปล่อยตัว
ต่อข้อถามถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ ฆาตกร 14 ศพ กล่าวว่า “ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ใช้ชีวิตเช่นนั้นในเวลานั้น ผมไม่ได้วางแผนและเตรียมก่ออาชญากรรม แค่ลงมือไปตามแรงกระตุ้นบางอย่าง”
ในโอกาสนี้ อี ได้กล่าวขอโทษยูน เหยื่อทุกราย และผู้ชายในพื้นที่หลายสิบคนที่ตกเป็นเป้าสอบสวนของตำรวจ สื่อเกาหลีใต้รายงานว่ามีชายอย่างน้อย 4 คนฆ่าตัวตายหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในความผิดไม่ได้ก่อ ทั้งนี้ เขาไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาฆาตกรรมเหยื่อรายอื่นๆในฮวาซ็อง แม้สารภาพ เพราะคดีหมดอายุความไปแล้ว
ในช่วงเกิดเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ฮวาซ็องเป็นเขตชนบท มีประชากรราว 2.26 แสนคน กระจายอยู่ในหมู่บ้าน อาชญากรรมรุนแรงเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก ตำรวจทุ่มทรัพยากรมหาศาลเพื่อไขปริศนาฆาตกรรม กลายเป็นการสอบสวนไล่ล่าครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์อาชญากรรมของเกาหลีใต้ ตร.สอบปากคำผู้ต้องสงสัยกว่า 2.1 หมื่นคน พนักงานสอบสวนใช้เวลาไปกว่า 2 ล้านชม.เพื่อคลี่คลายคดี สุดท้าย ยูน ซึ่งเป็นโปลิโอตั้งแต่เด็กและเรียนไม่จบรร.ประถม กลายเป็นคนเดียวที่ถูกตัดสินความผิดในคดีนี้
เมื่อเดือนก.ค. แบ ยอง จู ผู้บัญชาการตำรวจจ.คยองกี ได้ออกมาค้อมศีรษะขอโทษเหยื่อ ครอบครัวเหยื่อ และผู้ตกเป็นเหยื่อสอบสวนรวมถึงยูน และยอมรับว่าการสอบสวนในปี 2532 ตำรวจทำร้ายยูนเพื่อบังคับสารภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง