ข่าว

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอเสียง 'คนเชียงราย' หนุนร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอเสียง 'คนเชียงราย' หนุนร่างกฎหมาย สุราก้าวหน้า ทลายทุนผูกขาด สร้างประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจด้วยศักยภาพท้องถิ่น

1 พ.ย.63  ณ โรงแรม ทีค การ์เดนท์ สปา รีสอร์ท จ.เชียงราย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล  นำคณะก้าวไกลสัญจรภาคเหนือ ร่วมวงเสวนา เกี่ยวกับเศรษฐกิจเชียงรายว่าด้วยการเพิ่มศักยภาพสินค้าการเกษตร ข้าว กาแฟ สับปะรด โดยมี เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย เขต 1 พร้อมด้วย มานพ คีรีภูวดล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนชาติพันธุ์ และกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ธิวัชร์ ดำเเก้ว นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎรและตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมแลกเปลี่ยน 

พิธา กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนเชียงรายที่ให้ความไว้วางใจกว่า 160,000 คะเเนน จนทำให้ได้ ส.ส.ของพรรคถึง 3 คน รวมทั้งยังมี ส.ส.ในสัดส่วนชาติพันธุ์เข้ามาเป็นตัวแทนจากสัดส่วนบัญชีรายชื่อด้วย โดยเมื่อวานนี้ (31 ต.ค. ) คณะก้าวไกลสัญจรได้เดินทางไปที่ดอยผาฮี้ เพื่อในพูดคุยกับเกษตรปลูกกาแฟซึ่งเป็นผลผลิตต้นน้ำ ส่วนเมื่อช่วงเช้าก็ได้พูดคุยกับเจ้าของร้านกาแฟ ที่รับผลผลิตจากเกษตรกร นั่นคือปลายน้ำ 

“ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตั้งแต่มีสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้ราคาผันผวนมากเป็นพิเศษ ซึ่งการช่วยเหลือของรัฐบาลยังไม่ทั่วถึงเเละไม่ครบวงจร สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้โภคภัณฑ์เหล่านั้นกลายเป็นผลิตภัณฑ์ได้ จุดเเข็งของชาวเชียงรายคือวัตถุดิบหรือมีพืชทางเศรษฐกิจที่สามารถส่งเสริมเพิ่มมูลค่าสินค้าได้จากอัตลักษณ์ชุมชน และยังสามารถพัฒนาเรื่องการค้าชายแดนได้อีกด้วย”

พิธา ระบุว่า สาเหตุราคาพืชผลเกษตรกรผันผวน เพราะต้องพึ่งกับราคาตลาดโลก ซึ่งเกษตรกรเหล่านี้ถูกทุนผูกขาดตลาดและราคา ทำให้ไม่มีทางเลือกในการจำหน่ายเพื่อให้เพิ่มรายได้ อีกปัญหาสำคัญคือผลกระทบจากราคาต้นทุนโครงสร้าง ซึ่งเกษตรกรที่มาร่วมแลกเปลี่ยนหลายคนเรียกร้องให้มีการประกันราคาข้าว ตรงนั้นคงเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น แต่การแก้ไขปัญหาระยะยาว คือต้องสามารถเพิ่มศักยภาพให้ผลิตภัณฑ์และเกษตรกรสามารถอยู่ได้ด้วยต้นเอง 

ในส่วนของสับปะรด พิธา กล่าวว่า พบปัญหาเรื่องราคาไม่คงที่ ต้องพึ่งพาธุรกิจแปรรูป ข้อเท็จจริงคือที่ผ่านมามีความพยายามใช้งบประมาณเพื่อพยุงราคาเท่านั้น แต่ไม่มีความพยายามในการแปรรูปสินค้า ปีนี้รัฐบาลใช้เงิน กว่า 75,000 ล้านบาทในการพยุงราคาสินค้าการเกษตร ซึ่งหากนับย้อนไป 10 ปีที่ผ่านมา รวมมูลค่าแล้วก็กว่าล้านๆบาท นั่นคือภาษีของประชาชน 

"ในการวิจัยของมหาวิทยาลัยนาโกย่า รัฐบาลญี่ปุ่น สนับสนุนให้มีการวิจัยเกี่ยวกับข้าว 98 ปี ผิดกับรัฐบาลไทย ที่ต้องอาศัยตามขั้นตอนเเละกระบวนการของระบบราชการ นี่คือปัญหา ในส่วนของสับปะรด แนวคิดในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้าสอดคล้องกับนโยบายสุราก้าวหน้าของอดีตพรรคอนาคตใหม่ เเละพรรคก้าวไกล ที่มีการผลักดันร่างพระราชบัญญัติสุราก้าวหน้า พ.ศ....ในรัฐสภา ซึ่งตลาดสุรา เบียร์ ในไทยมีมูลค่า 200,000 ล้านบาท เท่ากับราคาตลาดสาเกในญี่ปุ่น ปัญหาของตลาดสุราไทย คือการผูกขาดกับนายทุนใหญ่ เพียงไม่กี่เเบรนด์  เราสามารถนำสับปะรดมาแปรรูปทำไวน์ หรือบรั่นดี ให้เป็นสินค้าชุมชน เพิ่มมูลค่าจากอัตลักษณ์ของเชียงราย สร้างรายได้เเละกระตุ้นเศรษฐกิจได้"

ทั้งนี้ พิธา ระบุว่า เพราะความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเเละทรัพยากร การพัฒนาผลผลิตจากโภคภัณฑ์ เป็นผลิตภัณฑ์ด้วยการแปรรูปจากภูมิปัญญาจะเป็นการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด แต่ปัจจุบันยังติดล็อกทางกฎหมาย เรื่องนี้จะผ่านได้หรือไม่อยู่ที่ประชาชนในการสนับสนุน และตนเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สูงสุดของพี่น้องชาวเชียงราย 

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า งบประมาณของ  29 โครงการที่เกี่ยวกับเกษตร จ. เชียงราย มีมูลค่ากว่า  1,100 ล้านบาท แต่ผ่านงบประมาณประจำปี 64 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท จะเห็นว่าไม่มีกรมใดดูเเลด้านการแปรรูปสินค้าเกษตรเลย 

"หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลเราจะจัดตั้งหน่วยงานที่รับรองงบประมาณในด้านการแปรรูปสินค้าเกษตร เพราะจะเป็นการดูเเลปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างตรงจุด สอดคล้องกับนโยบายเกษตรก้าวหน้า และการปักธงประชาธิปไตย ของอดีตพรรคอนาคตใหม่เเละพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน"

ด้าน เอกภพ กล่าวว่า  เวลาเดียวกันนี้เมื่อ 2 ปีที่เเล้ว คืองานเเรกที่ได้ร่วมงานการเมือง วันนั้นที่พาณิชย์เชียงราย ได้พบกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จากนั้นมาจึงเริ่มต้นเดินบนทางสายการเมือง เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ปัจจุบันเราเป็นพรรคก้าวไกล ร่วมเดินทางต่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ซึ่งยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ทางการเมือง เเต่ขณะเดียวกันเราก็คำนึงถึงเรื่องปากท้องประชาชน ซึ่งในจังหวัดเชียงราย สิ่งสำคัญที่เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ ข้าว กาแฟ เเละสับปะรด 

"เราจะร่วมกันผลักดันเเละแปรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าด้วยอัตลักษณ์ชุมชน ในฐานะสินค้าเศรษฐกิจของจังหวัด และตลอดเวลาที่ผมได้ทำงานในจังหวัดเชียงรายร่วมกับเครือข่ายต่างๆ ได้มีการสร้างโมเดลการดับไฟป่าอย่างยั่งยืนที่บ้านแม่ขม อ.เมือง จ.เชียงราย ในส่วนประเด็นของการแก้ไขปัญหาไวรัสโคโรนา 2019 ได้ทำงานร่วมกับสาธารณสุข เเละในเรื่องคราฟท์เบียร์ ได้ผลักดันเเละพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อแปรรูปสินค้าในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายให้เกิดการกระจายรายได้ ทลายทุนผูกขาดในพื้นที่ ในส่วนเรื่องกาแฟ มีแผนที่จะนำไปผลักดันต่อ เเละพวกเราพร้อมรับฟังเสียงของนักศึกษา นี่คือเสียงของอนาคตที่เราต้องฟังอย่างตั้งใจ ที่ผมทำงานในวันนี้ ผมทำงานรับใช้ในอนาคต เพื่อแก้ไขปัญหาในอดีต และขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลเป็นของทุกคน"

 

ด้าน มานพ  ส.ส.ชาติพันธุ์ กล่าวว่า ความหลากหลายของกลุ่มสายพันธุ์ข้าว สอดคล้องกับความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ เชียงรายมีมากกว่า 19 กลุ่มชาติพันธุ์ ขณะที่ข้าวมีมากกว่า  48 สายพันธุ์ ข้าวของชาวกะเหรี่ยง ปัจจัยสำคัญคือความแตกต่างเเละหลากหลายในการปลูกแต่ละพื้นที่  ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศทางกายภาพ วันนี้หากสามารถหยิบยกประเด็นความหลากหลายทางสายพันธุ์ข้าวกลับมาโดยมีมหาวิทยาลัยในภาคเหนือมาร่วมกันวิจัย คิดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพไม่ให้ความมั่นคงทางอาหารมันหายไป 

“ ยิ่งเราเจอการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ  การจะทำให้สายพันธุ์ข้าวอยู่ต่อไปต้องนำมาปลูก นำมาใช้  เพื่อรักษาสายพันธุ์ข้าวเอาไว้ ซึ่งก็คือการรักษาความมั่นคงในสังคมด้วย” 

ด้าน กัญจน์พงศ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กล่าวว่า เชียงรายเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้ผลกระทบมากจากปัญหาฝุ่นพิษ pm 2.5 ในนโยบายปัญหาสิ่งเเวดล้อมของพรรคก้าวไกล ได้ใช้กลไกในคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย (กมธ.ปภ.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาและแก้ไขปัญหา pm 2.5 เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว โดยมี นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรค เป็นประธานอนุกรรมาธิการ

"ปัญหานี้สอดคล้องกับปัญหาปากท้องประชาชน นอกจากกระทบต่อจมูก ปาก เราเเล้ว กระทบต่อกระเป๋าสตางค์เราด้วย ทั้งในด้านต้นทุนสิ่งแวดล้อม เเละต้นทุนทางร่างกายที่เราเสียไปด้วย"  

ด้าน ธิวัชร์ นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง ศักยภาพของสับปะรดของเชียงรายว่า มีการปลูกในพื้นที่ 6 อำเภอ หรือราว 12,000 ไร่ สิ่งที่ได้เปรียบของชาวเชียงรายคือ สับปะรดภูเเล ซึ่งได้รับตรา GI หรือก็คือสัญลักษณ์บ่งชี้ภูมิศาสตร์ซึ่งคือจุดเเข็งในการพัฒนาต่อในเรื่องของแอลกอฮอลล์ได้ สอดคล้องกับหลักการ Gout de Terroir ของทำไวน์ของฝรั่งเศส ที่ปัจจัยสำคัญคือ ตำแหน่งที่ตั้งของที่ดิน นอกจากนี้ เชียงรายเองยังมีพื้นที่ในการปลูก ดินเเละภูมิศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ที่เชื่อมการค้าชายเเดน ในอนาคตจึงเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ

สำหรับ โครงการก้าวไกลสัญจรภาคเหนือครั้งนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้รับฟังปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ในพื้นที่ จ. พิจิตร เเละจ.พิษณุโลก ปัญหากาแฟ ข้าว และสับปะรด ที่ อ.แม่สาย และ อ.เมือง จ. เชียงราย ซึ่งเวทีในวันนี้ (1 พ.ย.63) มีนักศึกษาเเละประชาชนมาร่วมเเลกเปลี่ยนมากกว่า 200 คน  จากนั้นในช่วงเย็น หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเดินทางต่อไปยังกาดหลวง เมืองเชียงราย จากนั้นจึงเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพเพื่อร่วมประชุมสภาสมัยสามัญที่กำลังจะเปิดสมัยประชุมในสัปดาห์นี้โดยจะนำไปปัญหาที่ได้รับฟังจากประชาชนทุกพื้นที่ไปผลักดันในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำไปสู่การแก้ไขต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ