เปิดเส้นทาง ซูเปอร์ไต้ฝุ่น "โคนี" ถล่มฟิลิปปินส์ จับตากระทบไทย

หลังจากที่ สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์รายงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ว่าทางการได้อพยพประชาชนตลอดแนวชายฝั่งทางตะวันออก เรื่อยไปจนถึงตอนใต้ของเกาะลูซอน โดยเฉพาะจังหวัดอัลไบ จังหวัดฮีลากังคามารีเนส และจังหวัดตีโมกคามารีเนส เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงสุดในการเป็นเส้นทางผ่านของ "ไต้ฝุ่นโคนี" ซึ่งในช่วงหนึ่ง พายุมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางอยู่ที่ 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงสุดใกล้ศูนย์กลางวัดได้ 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่าเฮอริเคนระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในโลก ของปีนี้ ตามมาตรวัดพายุซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน

พายุไต้ฝุ่น (พายุระดับ 5) “โคนี” บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันที่ 2 พ.ย. 2563 และมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ในช่วงวันที่ 4 - 6 พ.ย. 2563

และนี่ก็ไม่ใช่พายุลูกสุดท้ายของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อหน่วยงานในฟิลิปปินส์กำลังจับตาการก่อตัวและการเคลื่อนที่ของไต้ฝุ่น "อัสนี" ซึ่งจะเป็นพายุลูกที่ 20 ที่เตรียมพาดผ่านฟิลิปปินส์ อาจมีความรุนแรงยิ่งกว่าพายุโคนีด้วย

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ของประเทศไทย ได้คาดหมายลักษณะอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม -  5 พฤศจิกายน 2563   ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. - 2 พ.ย. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นลงเล็กน้อย ประกอบหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาและอ่าวเบงกอลตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนเกิดขึ้นในระยะนี้ ส่วนร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 5 พ.ย. 63 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศเย็นกับมีลมแรง ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนเส้นทางพายุไต้ฝุ่น โคนี่ จะเคลื่อนผ่านฟิลิปปินส์ในอีก 12ชั่วโมง ข้างหน้านี้ และคาดว่าจะมีผลกระทบต่อประเทศไทย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านตะวันออก ในช่วงวันที่ 3-4 พฤศจิกายน นี้ จากศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่นแห่งชาติ หรือ JTWC

ขณะนี้มีความเร็วลมรอบจุดศูนย์กลางที่มากกว่า 160kts หรือประมาณ 296 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีลมกระโชกแรงมากกว่า 195kts หรือประมาณ 361 กิโลเมตร/ชั่วโมง และความกดอากาศต่ำกว่า 895hPa ยอดเมฆของพายุลูกนี้สูงกว่า 13.5 กิโลเมตร ซึ่งสูงมากที่สุดในชั้นบรรยากาศที่มีผลต่อลักษณะฝนฟ้าอากาศ

#นับว่าเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่นที่รุนแรงมากที่สุดในโลก ในรอบทศวรรษ