นายกฯ ลั่นกลางสภาจะไม่ลาออกด้วยการหนีปัญหา เตือนอย่าเอาต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการในประเทศ เตรียม ตั้งคณะกรรมการดึงคนจากทุกฝ่ายมาร่วมกันหาทางออก
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานสภา โดย ภายหลังจากวิปฝ่ายค้าน และรัฐบาล ได้ลุกขึ้นอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวอภิปรายต่อ ในช่วงท้ายโดยนายกฯ ได้กล่าวตอนหนึ่ง ระบุว่า คนบอกผมอยากอยู่ยาว อยู่นาน ไปถามคนร่างรัฐธรรมนูญ ผมไม่ได้เป็นคนร่าง สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผมจะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วยการหนีปัญหา ผมจะไม่ลาออกด้วยการหนีปัญหา เหมือนคนอื่นๆ ผมยังต้องแก้ไขปัญหาอื่นๆ พร้อมร่วมมือกับทุกฝ่าย จนกว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำ ตอบชัดไหม
“ขอบคุณทุกท่าน ที่ใช้เวลา 2 วัน ขอบคุณที่ใช้อย่างเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง เพื่อลูกหลานท่าน ไม่ใช่ลูกท่าน ไม่ใช่หลานท่าน ก็ห่วงลูกหลานคนอื่นเขาด้วย ถ้าลูกหลานท่านไม่ได้ไป ก็ห่วงลูกหลานคนอื่นด้วย อย่าทำอะไรที่เกิดความเสียหายกับชาติบ้านเมือง สิ่งสำคัญที่สุดก็คืออย่าเอาต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการในประเทศไทย เรามีอธิปไตยของเรา อย่าเอาเขาเข้ามา มันอันตรายที่สุดเลย ช่วงนี้เป็นช่วงของการ ขั้วอำนาจกันอยู่ ไม่ได้มีปัญหาเฉพาะเราอย่างเดียว ก็ขอเตือนไว้”
ทำให้ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นมาประท้วงประธานที่ประชุม ที่ปล่อยให้นายกฯ กล่าวใส่ร้ายกับผู้ชุมนุม ที่นำต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง นายกฯพูดแบบนี้ มีหลักฐานอะไรบ้างให้เอามาแสดงไม่เป็นธรรมกับผู้ชุมนุม ขณะนั้นนายกฯได้ลุกขึ้นใช้มือชี้ ทำให้นางอมรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า “อย่าชี้หน้านะคะ” นายกฯ จึงได้นำมือลง และกล่าวว่า ผมไม่ยุ่งกับท่านดีกว่า
เตรียม ตั้งคณะกรรมการดึงคนจากทุกฝ่ายมาร่วมกันหาทางออก
หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญตามระบบรัฐสภาและตามขั้นตอนที่มีอยู่แล้ว ซึ่งการเปิดสภาสมัยวิสามัญในครั้งนี้ก็จะนำคำแนะนำต่างๆ จากสภาและตั้งคณะกรรมการศึกษาร่วมกัน โดยเอาคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ไม่ว่าจะขัดแย้งหรือไม่มารับฟังหารือหาทางออก เพราะนายกฯ แก้คนเดียวคงไม่ไหว นี่คือการเปิดเวทีของเรา เมื่อถึงเวลาเปิดมันก็ต้องเปิด ไม่ใช่ว่าไม่ไหวแล้วถึงเปิด ทุกอย่างต้องมีขั้นตอนและมีวิธีการที่รัดกุม ถ้าเปิดแล้วแก้หรือคุยกันไม่ได้แล้วจะเปิดไปทำไม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง