
ชาวชุมพรน้อมรำลึก วันคล้ายวันพระราชสมภพครบ 120 ปี "สมเด็จย่า"
ชาวชุมพรน้อมรำลึก วันคล้ายวันพระราชสมภพ ครบ 120 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
วันที่ 21 ต.ค. 2563 ที่ สวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในงานกิจกรรมน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัฐบาลกำหนดจัดกิจกรรมทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 21 ต.ค. - 1 พ.ย. 63
ภายหลังพระคุณเจ้าให้ศีลแล้ว นายธีระได้นำบรรดาผู้ร่วมงานทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ต่อจากนั้นมีพิธีวางพานพุ่มหน้าพระราชานุสาวรีย์ โดยมี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหลังสวน อัยการ ผู้บังคับการตำรวจ ภ.จว.ชุมพร ทหาร เหล่ากาชาด และส่วนราชการต่างๆ
นอกจากนั้นยังได้มีการจัดนิทรรศการในบริเวณที่จัดกิจกรรมด้วย สำหรับสวนสมเด็จย่า ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็น 1 ใน 12 สวนสมเด็จย่าทั่วประเทศ ที่มีการตกแต่งสวยงาม ร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนของประชาชน
สำหรับนิทรรศการได้นำเสนอ นับตั้งแต่ปีแรกที่ประสูติ จนกระทั่งสวรรคต และพระราชปณิธานที่มีผู้สานต่อผ่านมูลนิธิหรือองค์กรต่างๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ดังนี้ ช่วงที่ 1 พ.ศ. 2443 - 2460 ชีวิตในวัยเยาว์ เรียนรู้ เติบโตในชุมชนเล็กๆ ใกล้วัดอนงคาราม ได้เป็นข้าหลวงในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ (กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร) กระทั่งได้ร่ำเรียนในฐานะนักเรียนพยาบาล โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช และมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาวิชาพยาบาล ไปศึกษาต่อ ณ สหรัฐอเมริกา
ช่วงที่ 2 พ.ศ. 2460 - 2466 ชีวิตของการเป็นนักเรียนทุนในต่างประเทศ ทำให้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ตลอดทั้งเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ ศิลปวัฒนธรรม และฝึกทักษะด้านภาษา และจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตนักเรียนทุนพยาบาล ณ สหรัฐอเมริกา คือการได้พบและอภิเษกสมรสกับสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ และสร้าง "ครอบครัวมหิดล"
ช่วงที่ 3 พ.ศ. 2467 - 2475 ชีวิตครอบครัวเริ่มได้ไม่นาน ก็ประสบกับความสูญเสีย สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ สิ้นพระชนม์ นับจากนั้น แม้การอภิบาลพระโอรสธิดาจะดำเนินไป ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคมและประเทศ แต่เจ้านายเล็กๆ ก็เติบโตอย่างมีสุขอนามัยที่สมบูรณ์ ณ วังสระปทุม
ช่วงที่ 4 พ.ศ. 2476 - 2514 ช่วงเวลาที่ได้ปฏิบัติพระราชภารกิจยิ่งใหญ่ในการถวายพระอภิบาลและอบรมพระโอรสธิดา และทุกพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาต่อต่างประเทศ นอกจากนั้น สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ทรงใช้เวลาศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งวิชาปรัชญา ภาษาสันสกฤต และบาลี อย่างจริงจัง ซึ่งนำเสนอผ่านสมุดเลคเชอร์ลายพระหัตถ์ และตำราวิชาต่างๆ ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงสนพระราชหฤทัย
ช่วงที่ 5 พ.ศ. 2515 - 2538 นอกจากพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติด้วยความเมตตากรุณา ส่งไปถึงอาณาประชาราษฎร์ทุกหมู่เหล่าแล้ว ในยามที่ทรงว่างหรือภายหลังการทรงงาน ก็จะทรงพักพระอิริยาบถทรงงานอดิเรกที่โปรด ด้วยทรงตระหนักว่า "เวลาเป็นของมีค่า" ทั้งเรื่องงานปั้น งานปักผ้า งานดอกไม้แห้ง งานวาดรูปบนเครื่องกระเบื้องเซรามิก และความสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับดาราศาสตร์ โปรดให้ตกแต่งเพดานพระตำหนักดอยตุง เป็นภาพสุริยจักรวาล กลุ่มดาวจักรราศี และกลุ่มดาวฤกษ์สำคัญ ซึ่งจำลองมาให้ชมภายในนิทรรศการครั้งนี้ด้วย ตราบจนถึงวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ เมื่อเสด็จสวรรคต ทรงเป็น "สมเด็จย่า" ที่ชาวไทยเคารพ เทิดทูน ผูกพันมาจนตราบทุกวันนี้



