ข่าว

"สุทิน"  จี้รัฐบาลเปิดสภาวิสามัญหาทางออกประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สุทิน" จี้รัฐบาลเปิดประชุมสภาวิสามัญ หาทางออกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้ยุบสภาไม่ใช่ทางออกในเวลานี้ เพราะปัญหาเดิมจะวนกลับมาอีก 


19 ต.ค.2563  นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการหารือระหว่างพรรคการเมืองในวันนี้ ว่า วันนี้จะต้องทำสังคมได้มั่นใจว่าสามารถแก้ปัญหาและหาทางออกเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในเวลานี้ได้ ซึ่งจะต้องดูมูลเหตุของวิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้และหาทางแก้ไข และการหารือนี้จะต้องจบโดยเร็ว แม้จะไม่ได้รายละเอียดมากนักแต่ก็ต้องมีแนวทางที่แน่นอน และเชื่อว่ามาตรการสำคัญในวันนี้คือการเปิดประชุมแบบวิสามัญเร่งด่วนแม้จะมีเวลาแค่ 10 วัน แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็รวดเร็วและอะไรก็เกิดขึ้นได้แม้แต่ 1-2 วันก็ไม่ควรปล่อยเวลาทิ้งไป และส่วนตัวก็เห็นว่าช่วงเวลา 10 วันก่อนเปิดสมัยประชุมแบบสามัญก็ยังช้าไปด้วย 

 


ทั้งนี้ นายสุทิน กล่าวว่า เมื่อเปิดประชุมแล้วสาระที่จะมีการหารือกันก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ถือว่าเป็นข้อเรียกร้องชัดเจน  ว่าจะรับหรือไม่รับ หรือต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราใด ดังนั้นก็เห็นควรที่จะต้องเปิดประชุมแบบวิสามัญเพื่อลงมติโหวต และเชื่อว่าหากโหวตผ่านสถานการณ์ก็จะดีขึ้น แต่ถ้าไม่ผ่านก็จะสามารถยื่นต่อได้ในสมัยประชุมแบบสามัญ 


นอกจากนี้จะต้องหารือเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ด้วย ว่าออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือเหมาะสมหรือไม่ หากไม่เหมาะก็จะทำให้สถานการณ์ไม่ดีขึ้น และควรจะยกเลิกหรืไม่ รวมถึงการให้คำแนะนำท่าทีรัฐบาลต่อผู้ชุมนุม และควรที่จะให้มีการเปิดเจรจากัน รวมถึงท่าทีของรัฐบาลที่มีการข่มขู่ ต้องลดท่าทีนี้ด้วยหรือไม่ 


อย่างไรก็ตาม  ทุกวันนี้ต้องตระหนักว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้แก้ปัญหา หากสภาจะมีมติ หรือแนะนำอะไรบางอย่างกับนายกรัฐมนตรีก็เชื่อว่าจะมีน้ำหนัก ไม่น้อยกว่าผู้ชุมนุม 


นอกจากนี้ นายสุทิน ยังกล่าวถึงการยุบสภาหากเกิดขึ้นในขณะนี้ส่วนตัวเห็นว่า จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้และจะต้องนำปัญหานี้ไปแก้ในปีหน้า อีก ทั้งเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเอง นอกจากนี้ยังเห็นว่าการยุบสภาขณะนี้ ยังต้องใช้ระบบเลือกตั้งแบบเดิมอยู่ ซึ่งจะทำให้ปัญหานั้นวนกลับมาอีก และคำว่าสืบทอดอำนาจก็ยังถูกหยิบยกขึ้นมาอีก  


ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้คือการทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นและจะเอาใครเป็นรัฐบาลในช่วงนี้ก็ต้องมาช่วยกันคิด และต้องเป็นรัฐบาลที่ทุกฝ่ายยอมรับ และต้องถ่วงดุลและตรวจสอบได้

 

ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมในเรื่องของการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ส่วนตัวคิดว่าทางรัฐสภาไม่สามารถพูดได้โดยตรง แต่หากมีการตั้งเวทีขึ้นมาและเปิดโอกาสให้พูดว่าการปฏิรูปนี้คืออะไร ต่างจากการล้มล้างหรือไม่ และต้องการปฏิรูปอะไรก็เชื่อว่าต้องมีการรับฟังอย่างเป็นเหตุเป็นผลก่อน ซึ่งอะไรทำได้หรือไม่ได้สังคมจะมีคำตอบเอง จึงไม่ควรไปวิตกกับข้อเสนอดังกล่าว หากมีการพูดคุยกันอาจเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีใครเปิดเวทีดังกล่าวเลย ซึ่งรัฐสภาควรที่จะเป็นผู้หารูปแบบว่าการเปิดเวทีลักษณะนี้ควรเป็นเวทีแบบไหน

 

สำหรับประเด็นมาตรา 272 ที่เสนอนายกนอกบัญชีนั้น เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาทั้ง 700 คนมีวิจารณญาณ ว่าอะไรสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งมาตราดังกล่าวสามารถบังคับใช้ได้แต่ต้องมาคิดกันว่าสถานการณ์ปัจจุบันนี้เหมาะสมหรือไม่ที่จะใช้ ส่วนที่ว่าหากนายกรัฐมนตรีลาออกและใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อนั้น ต้องขึ้นอยู่กับสภาและประชาชน โดยส่วนตัวเห็นว่ามี 2 กลไกตามรัฐธรรมนูญคือเลือกตามแคนดิเดตเดิม หรือการใช้มาตรา 272 ก็ได้หรือใครที่นอกเหนือจากนี้ก็เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดมีวิจารณญาณในการตัดสินใจ ด้วยการฟังเสียงของสังคม ส่วนที่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นคนนอกและเหมาะสมหรือไม่นั้นทางฝ่ายค้านต้องมีการหารือกันอีกครั้ง แต่ตนคิดว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนถอดสลักต่อปัญหานี้ หรือหากพรรคร่วมรัฐบาล ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมก็ถือว่าเป็นทางออกอย่างหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าทุกคนตระหนักดีว่าตัวเองสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ควรคิดได้ว่าต้องถอนตัว และเชื่อว่าระบบรัฐสภามีทางเลือกจำนวนมากอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ 

 

"สุทิน"  จี้รัฐบาลเปิดสภาวิสามัญหาทางออกประเทศ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ