ผู้ว่าฯ เมืองคอนนำปชช.ร่วมทำบุญตักบาตรและทำกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตในหลวงรัชกาลที่ ๙

(13 ต.ค.) เวลา 06.45 น. ที่ลานโพธิ์ วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายไกรศร  วิศิษฎ์วงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2563 โดยมีพระเทพวินยาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 16-17-18(ธรรมยุต) /เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เป็นประธานสงฆ์ มีแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด อัยการ ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาด แม่บ้านมหาดไทย พ่อค้า และประชาชนทุกหมู่เหล่าที่พร้อมใจใส่เสื้อเหลืองเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสนับสนุนโครงการทุนเล่าเรียนหลวง สำหรับพระสงฆ์ไทยด้วย

ต่อมาในเวลา 09.30 น. ที่หอประชุมเมืองนครศรีธรรมราช(ทุ่งท่าลาด)  นายไกรศร  วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2563 โดยมีรองแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล อัยการ ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาด แม่บ้านมหาดไทย พ่อค้า และประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

อนึ่งเมื่อเวลา 08.30 น. ผู้แทนหน่วยงานราชการ/องค์กรต่าง ๆ จำนวน 42 หน่วยงาน/องค์กร ได้ร่วมกันวางพวงมาลา เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตามลำดับ โดยดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องสวมหน้ากากผ้าสีขาวหรือหน้ากากอนามัยสีขาวตลอดเวลา  ส่วนการวางพวงมาลากำหนดให้หน่วยงานราชการวางในนามของกระทรวง เพื่อจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

และตามกำหนดในเวลา 19.00 น. วันนี้(13 ต.ค.63) จังหวัดนครศรีธรรมราชกำหนดประกอบพิธีจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมรับชมวีดิทัศน์เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ หอประชุมเมืองนครศรีธรรมราช (ทุ่งท่าลาด) จึงขอเชิญชวนชาวนครศรีธรรมราชทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกันด้วย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลา 10.45 น. นายไกรศร  วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาในโอกาสวันสำคัญของชาติไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ภายใต้กิจกรรมจิตอาสา “ปณิธานความดี  ทำดีเริ่มได้ที่ตัวเรา”  ณ บริเวณประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ     ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีจิตอาสาพระราชทาน 904  และจิตอาสาทุกภาคส่วน ทั้งหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงประมาณ 1,000 คน

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบพิธีถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และถวายความเคารพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว/พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจบแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยจิตอาสาทุกคนได้แยกย้ายกันออกปฏิบัติงานเก็บขยะทำความสะอาด กำจัดผักตบชวา วัชพืชต่าง ๆ ปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ได้ลงเรือเก็บผักตบชวาในแม่น้ำปากพนังบริเวณหน้าประตูระบายน้ำอุกวิภาชประสิทธิด้วย

สำหรับประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชดำริ ซึ่งกรมชลประทานได้ดำเนินการตามแนวพระราชดำริ   โดยก่อสร้างประตูระบายน้ำตั้งแต่ปี 2539  และแล้วเสร็จสมบูรณ์ใน พ.ศ.2542   เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดบานระบายกว้าง 20.0 ม. จำนวน 10 ช่อง (บานระบายเดี่ยว 6 ช่อง และบานระบายคู่ 4 ช่อง) สามารถระบายน้ำได้ 1,426 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำพื้นที่เกษตรกรรม และเก็บน้ำจืดไว้ในแม่น้ำปากพนังและคลองสาขา เพื่อการเกษตรและรักษาระดับน้ำในแม่น้ำปากพนังเพื่อป้องกันน้ำเปรี้ยวด้วย สามารถเก็บกักน้ำจืดไว้ในลำน้ำปากพนังและลำน้ำสาขาได้ประมาณ 70 ล้าน ลบ.ม. เพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเพาะปลูกบริเวณสองฝั่งลำน้ำ ประมาณ 521,500 ไร่ในฤดูฝน และประมาณ 240,700 ไร่ในฤดูแล้ง คำว่า"อุทกวิภาชประสิทธิ" เป็นนามพระราชทานที่เป็นมงคลยิ่ง มีความหมายถึง ความสามารถ แบ่งแยก น้ำจืด น้ำเค็ม ได้สำเร็จ นอกจากนี้ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ยังเป็นสถานที่ศึกษาดูงานและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย.

ยุทธนะ  เตมะศิริ ผู้สื่อข่า่วภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช

ภาค/คลิป สนง.ปชส.นครศรีธรรมราช