ข่าว

สุดทึ่ง"น้องอุ้ม"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต"รำมโนราห์ตัวอ่อน"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สุดทึ่ง"น้องอุ้ม"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต"รำมโนราห์ตัวอ่อน"พลิกวิถีชีวิตครอบครัวยากไร้ได้ลืมตาอ้าปาก

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2563 ที่ลานงานลากตลาดพระพุทธภูมิ ตลาดย้อนยุค ถนนพุทธภูมิ อ.เมือง จ.นครศรีธรมราช ซึ่งทางสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมของจังหวัดนครศรีธรรมราช “ งานลากพระตลาดพุทธภูมิ”  โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 – 8 ตุลาคม 2563 โดยมีการตกแต่งบริเวณตลาดแบบย้อนยุคเข่ากับธรรมชาติ ในขณะที่กิจกรรมภายในงานนอกจากการจัดจำหน่ายขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมืองแล้วยังมีการละเล่นและการแสดงมหรสพพื้นบ้านอย่างหลากหลาย อาทิ เพลงบอก หนังตะลุง มโนราห์ และรำวงเวียนครก  ทำให้ในแต่ละคืนมีประชาชนเจ้าร่วมงานจำนวนมาก

นอกจากนี้บริเวณพื้นที่ด้านหน้าได้มีพ่อแม่ ผู้ปกครอง นำบุตรหลานที่มีความสามารถด้านศิลปวัฒนธรมท้องถิ่น ศิลปินพื้นบ้าน อาทิ การร้องเพลงลูกทุ่ง การร่ายรำมโนราห์ มาทำการแสดงแบบเปิดหมวกเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบคนรัวและเป็นทุนการศึกษาอีกด้วย ซึ่ง 1 ในนั้นผู้ปกครองได้นำ ด.ญ. ปุณยวีร์ สังคมศาสตร์ หรือ “น้องอุ้ม” วัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 จากโรงเรีบนจรัสพิชากร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มาเปิดหมวกร่ายรำมโนราห์ตัวอ่อน หรือท่าวปักษ์ใต้เรียกว่า “มโนราห์กระดูกอ่อน” ท่ามกลางความสนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและช่วยกันบริจาคเงินสมทบทุนให้กับ"น้องอุ้ม" ทำให้มีรายได้คืนละหลายพันบาท และผู้คนยังชื่นชมยกย่อง"น้องอุ้ม"  ที่รู้จักดิ้นรนหารายได้และยังเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นอีกด้วย

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

 

โดยน้องอุ้ม จะเปิดเสียงดนตรีมโนราห์เพื่อร่ายรำตามจังหวะต่าง ๆอย่างคล่องแคล่ว และอ่อนช้อย และยังมีความสามารถพิเศษในการร่ายรำแบบโบราณที่เรียกว่า “มโนราห์ตัวอ่อนหรือมโนราห์กระดูกอ่อน” สามารถยกเท้าขึ้นเกี่ยวลำคอ ม้วนตัว ทำสะพานโค้งคาบธนบัตร และท่าอื่น ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง  โดยมโนราห์ที่สามารถร่ายรำในลักษณะตัวอ่อนแบบนี้ได้จะต้องมีกระดูกอ่อนและผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

และหลังหยุดพักการร้ายรำ ด.ญ. ปุณยวีร์ สังคมศาสตร์ หรือ “น้องอุ้ม” ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ก่อนนี้ครอบครัวตนยากจน ยากไร้ พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ บางวันกินอาหารไม่ครบมื้อ พ่อแม่ทำงานรับจ้างแทบไม่มีเงินเหลือติดบ้านเลย ได้มาก็จ่ายไป ทำให้หนูต้องคิดหาทางต้องดิ้นรนช่วยเหลือพ่อแม่ เมื่อเรายากจนจำเป็นต้องใช้พยายามมากกว่าคนอื่น ถ้าอยู่บ้านเฉย ๆ รอขอเงินจากพ่อแม่ไปซื้อขนม และใช้จ่ายเพียงอย่างเดียวก็สงสารพ่อแม่ และอยู่บ้านเฉย ๆ มันคงไม่มีประโยชน์และไม่ได้เงิน ประกอบกับตนชื่นชอบการร้ายรำมโนราห์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเริมฝึกฝนการร่ายรำโนราห์จากยูทูป จนสามารถร่ายรำมโนราห์ได้ แต่แม่บอกว่าหนังตะลุง-มโนราห์”มีสิ่งวศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง หรือเรียกว่า “ครูหมอโนราห์”  จะร่ายรำผิด ๆ ถูก ๆ ไม่ได้ คุณแม่จึงพาไปฝากกับครูโนราห์ทำการฝึกฝนท่ารำที่ถูกต้อง 12 ชม. จากนั้นกลับมาฝึกฝนจนคล่องแคล่วและประยุกต์ท่ารำแบบตัวอ่อนได้ และเริ่มออกร่ายรำมโนราห์เปิดหมวกมีรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างเป็นกอบเป็นกำ และมีโอกาสไปออกรายการทีวีมาแล้วด้วย

หนูใฝ่ฝันว่าจะได้เรียนสูง ๆ เพื่อไปทำงานดี ๆ มีรายได้สูง ๆ เลี้ยงพ่อกับแม่และน้องสาวอีกคน แต่ชีวิตอาจไม่เป็นเหมือนฝัน เพราะทางบ้านก็ไม่ค่อยมีเงินมากนัก  ก็เลยคิดว่าการมุ่งมาทางด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชาวภาคใต้ และได้มาสัมผัสการรำมโนราห์หนูคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีและควรค่าในการอนุรักษ์ไว้ แม้เป็นการรำมโนราห์เปิดหมวกก็เป็นอาชีพที่สุจริต และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพติดตัวไปในอนาคตและมีรายได้เลี้ยงครอบครัว รวมทั้งเป็นทุนการศึกษาได้อีกทาง หนึ่ง หนูคิดว่าเยาวชนไทยไม่ว่าจะเป็นคนจังหวัดไหน หรือภาคไหน ๆ ก็สามารถอนุรักษ์วัฒนธรรม ของทุก ๆ ภาคไว้ให้อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป ได้ โดยเราไม่รู้ว่าวัฒนธรรมเหล่านี้จะคงอยู่ในสังคมไทยได้นานเท่าใด จึงที่เยาวชนควรจะลงมือทำคือการร่วมกันอนุรักษ์เอาไว้ให้ได้” มโนราห์ตัวน้อยกล่าว

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

ในขณะที่นางกัญญ์กุลนัช สังคมศาสตร์ แม่ของน้องอุ้ม เปิดเผยว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน ยากไร้ ลำบากมาก เริ่มแรกน้องอุ้มได้ศึกษาการรำมโนราห์จากยูทูป เปิดดูและฝีกฝนไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งตนนำน้องอุ้มไปฝึกกับญาติ ๆ ที่เป็นมโนราห์ ก่อนจะออกมารำมโนราห์เปิดหมวกทำให้ครอบครัวมีรายได้ มีความเป็นอยู่ มีคุณพภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตนภาคภูมิใจในตัวน้องอุ้มเป็นอย่างมาก น้องอุ้มรำมโนราห์เปิดหมวกมาตั้งแต่ชั้น ป.3 รวมกว่า  3 ปีแล้ว ทุกวันนี้รายได้หบักของครอบครัวมาจากการต่อสู้ชีวิตของน้องอุ้ม แต่ที่ภาคภูมิใจกับลูกสาวคนนี้มาก ๆ คือความตั้งใจในการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคใต้ของไทย ตนจะพยายามเก็บเงินจากการรำมโนราห์เปิดหมวกไว้เป็นทุนการศึกษาของน้องอุ้มและน้องสาวอีกคนให้เขาได้เรียนจนสูง ๆ สุดกำลังและให้ต่อสู้ชีวิตให้สุดกำลัง เป็นเด็กดีคนดีขอแงสังคมต่อไป

ทางด้านนายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช และประธานจัดงานลากพระพุทธภูมิ กล่าวว่า ตนดีใจและภูมิใจที่เห็นเด็ก ๆ โดยเฉพาะเยาวชน ที่ร่วมกันสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวใต้ สำหรับใสนตลาดย้อนยุคหลังจากนี้จะจัดเป็นตลาดนัดทุกวันอาทิตย์ และในช่วงเทศกาลก็จะจัดกิจกรรมต่อเนื่องเป็นช่วง ๆ เช่น งานลอยกระทง งานปีใหม่ สงกรานต์ มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ และอื่น ๆ โดยใช้มหรสพพื้นบ้านหนังตะบุง มโนราห์ เพลงบอก และรำวงเวียนครกเป็นตัวขับเคลื่อน หากเด็ก เยาวชน มีความสามารถในการแสดงด้านศิลปะ ศิลปินพื้นบ้านก็สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ในตลาดพุทธภูมิคามโอกาสต่าง ๆ ได้ เป็นการส่งเสริมให้เยาวชนได้สืบสานอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของภาคใต้อีกทางหนึ่ง และขอเป็นกำลังใจให้กับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะน้องอุ้มและครอบครัว คาดว่าอีไม่นานน้องอุ้ม จะเป็นมโนราห์ตัวอ่อนชื่อดังที่เปิดรับงานแสดงอย่างเป็นทางการได้อย่างแน่นอน.

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

สุดทึ่ง\"น้องอุ้ม\"วัย 13 ปีสาวน้อยหัวใจแกร่งสู้ชีวิต\"รำมโนราห์ตัวอ่อน\"พลิกวิถีชีวิตครอบครัว

ยุทธนะ  เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ