ไม่ทนทำเสียชื่อ ใส่ร้ายขายไข่ปลาริวกิวปลอม แม่ค้าเดือดลั่นเตรียมฟ้องลูกค้า

จากกรณีเมื่อช่วงกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านไปซื้อไข่ปลาริวกิวจากแม่ค้าในตลาด แต่เมื่อนำมาต้มแล้วพบว่าแข็งจนกินไม่ได้ จึงคาดว่าน่าจะเป็นไข่ปลาปลอม กระทั่งกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตมีข่าวจากหลายสำนักได้เสนอข่าวออกไป และมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการเข้ามาตรวจสอบพร้อมนำไข่ปลาไปตรวจสอบอย่างละเอียด อีกทั้งได้สั่งห้ามไม่ให้แม่ค้าคนดังกล่าวขายไข่ปลาจนกว่าผลจะออกมา

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 ก.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.นันทิพร เปลี่ยวปลอด อายุ 40 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเลสดในตลาดสำเภาทอง เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และเป็นคนขายไข่ปลาริวกิวให้กับลูกค้าคนดังกล่าว โดยเจ้าตัวชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ผลการตรวจได้ออกมาแล้ว ปรากฏว่าไข่ปลาที่ได้ขายให้กับลูกค้าไปนั้นไม่ใช่ไข่ปลาปลอม ซึ่งหลังจากถูกลูกค้าร้องเรียนก็ถูกทางตลาดสั่งห้ามขายของ ตนต้องหยุดขายไป 2 วัน จึงทำให้ขาดรายได้ แต่หลังจากนั้นทางตลาดได้อนุญาตให้มาขายเหมือนเดิม ยกเว้นไข่ปลาที่ห้ามนำมาขายจนกว่าผลตรวจสอบจะออก

ซึ่งตนรู้สึกเสียใจและเครียดมากในตอนนั้นเพราะออกข่าวใหญ่โตทั้งๆที่ยังไม่รู้ความจริงว่าเป็นไข่ปลอมจริงไม่ แต่ลูกค้าทุกคนที่ซื้อไปรับประทานก็ไม่เคยมีปัญหา จะมีก็ลูกค้าคนนี้คนเดียวซื้อไป 80 บาท โดยตนคาดว่าต้มไข่ปลานานเกินไปจนแข็ง แล้วมาบอกว่าเป็นไข่ปลอม

"หลังจากผลตรวจออกมาแล้วรู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นสิ่งยืนยันว่าตนไม่ได้ขายไข่ปลาปลอม และต่อไปคาดว่าจะปรึกษาทางน้องสาวและทนายความ เพื่อฟ้องร้องเอาผิดกับลูกค้าคนดังกล่าวที่ทำให้ตนเสียชื่อเสียงและขาดรายได้ในวันที่ต้องหยุดขายของ"

ทางด้าน น.ส.เยาวเรศ เปลี่ยวปลอด อายุ 28 ปี น้องสาวและแม่ค้าขายส่งไข่ปลา ได้ชี้แจงว่า ตนได้เป็นแม่ค้าขายส่งมาแล้วกว่า 10 ปี ซึ่งไม่เคยมีปัญหา ส่วนประเด็นที่ว่าไข่ปลาปลอมนั้นลูกค้าได้ซื้อไข่ปลาที่หลุดออกจากฝักไป 1 ขีด ซึ่งคาดว่าน่าจะต้มนานเกินไปจนทำให้ไข่แข็งตัว กระทั่งเกิดเป็นประเด็นไข่ปลาปลอม ทั้งนี้อยากขอวอนสื่อว่าข่าวบางประเด็นที่ไม่แน่ชัดควรหาข้อพิสูจน์ให้ชัดเจนก่อนจะนำไปเสนอข่าว

โดย เจนจิรา ศรีวิรักษ์ ผู้สื่อข่าว จ.สุราษฎร์ธานี