ทนายข้องใจศาลยกฟ้องคดีโชเฟอร์สิบล้อโดนยัดยาเสพติด 7 ตร.ชุดจับกุมกลับไร้ผลทางวินัย | คมชัดลึก

จากกรณีนายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/26 หมู่ 5 ต.ปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร โชเฟอร์ขับรถบรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 70-2434 ชุมพร ตกเป็นผู้ต้องหา หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งข้อหาครอบครองยาบ้า 1 เม็ดบริเวณที่วางของ ด้านข้างที่นั่งคนขับ ขณะบรรทุกยางพาราจาก จ.ชุมพรไปส่งที่ จ.ระยอง แต่นายโสภณได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ต่อมามีการเผยแพร่คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อขอความเป็นธรรม หากมีการยัดยาบ้าทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์

อ่านข่าวที่เกียวข้อง : โชเฟอร์สิบล้อได้เฮ ศาลสั่งยกฟ้องคดีครอบครองยาเสพติด 1 เม็ด ที่ด่านสามร้อยยอด

วันที่ 26 กันยายน นายชำนัญ ศิริลักษณ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ เปิดเผยว่า หลังจากศาลจังหวัดหัวหินพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลย โดยให้เหตุผลว่าจำเลยไม่ได้อยู่ร่วมด้วยในขณะตรวจค้น หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนายแรกขึ้นไปค้นหายาเสพติดบริเวณหน้ารถ แต่ไม่พบยาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกรายขึ้นไปค้นแล้วพบยาเสพติดยาบ้า 1 เม็ด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรายอื่นไม่พบเห็นยาเสพติดดังกล่าวพยานหลักฐานที่ได้มาจึงไม่ชอบ คดีมีเหตุควรสงสัย ศาลจึงยกข้อสงสัยให้เป็นประโยชน์ของจำเลย ล่าสุดคดีนี้เชื่อว่าพนักงานอัยการอาจจะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันหลังจากศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาหรืออาจขอขยายระยะเวลาในการอุทธรณ์คดี ขณะที่นายโสภณ ถือเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกันตัว

นายชำนัญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับมอบอำนาจให้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สภ.สามร้อยยอด กับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม 7 นาย ยศตั้งแต่ยศพันตำรวจตรีถึงนายดาบตำรวจที่ตั้งด่านตรวจในคืนเกิดเหตุ ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. แต่ผลของการสอบสวนทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งจะต้องติดตามเพื่อขอทราบความชัดเจน หลังจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมดยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ  “ยอมรับว่าคดีนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ขณะที่เอกสารพยานหลักฐานหลายร้อยหน้าที่อยู่ในคดีมีรายละเอียดที่ซับซ้อนและผลของคดีกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรที่เป็นผู้บังคับบัญชาของชุดจับกุม และที่ผ่านมาไม่เคยพบคดีโทษเล็กน้อย มีการตั้งคณะทำงานการสอบสวนจากตำรวจภาค 7 ทีมอัยการโจทก์มีการทำงานแบบคณะทำงาน และคดีนี้ สำนักงานศาลในระดับภาคได้ตรวจสำนวน เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ที่ประชาชนให้ความสนใจ” นายชำนัญ กล่าว

นายชำนัญ กล่าวว่า ในฐานะทนายความจำเลยการทำคดีต่อสู้คดีทั้งหมด จะเดิมพันด้วยอนาคตของวิชาชีพทนายความและทุกองค์กร  รวมทั้งความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นความท้าทาย ขณะที่การทำคดีในอนาคตยังไม่สามารถคาดเดาได้ ว่าที่มาของยาบ้ามาจากแหล่งใดแม้ว่าจะตรวจไม่พบ ดีเอ็นเอ ของบุคคลใด ตำรวจชุดจับกุมจะมีปัญหาอย่างไร แต่ยืนยันว่าหลักฐานที่มี จะทวงคืนความยุติธรรมได้ เพราะมีปรากฏในหลักฐานทางคดีชัดเจน ผู้ที่เสียหายจากการถูกกระทำจะต้องทวงสิทธิอย่างแน่นอน เพราะได้สูญเสียโอกาสในการประกอบอาชีพเดิม

ภาพ/ข่าว พอใจ จันทนา ข่าวภูมิภาค จ.ประจวบคีรีขันธ์