
ชัค ฟีนีย์ เศรษฐีใจบุญแจกจ่ายสมบัติกว่า 2 แสนล้านให้การกุศลสมความตั้งใจ
มหาเศรษฐีชาวอเมริกันคนดังผู้ตั้งใจว่าจะลาลับแบบตัวเปล่า กระจายสมบัติ 8,000 ล้านดอลลาร์ให้การกุศลเรียบร้อยแล้ว
ชาร์ลส์ ฟรานซิส ฟีนีย์ หรือ ชัค ฟีนีย์ มหาเศรษฐีใจบุญชาวอเมริกันเชื้อสายไอริช แจกจ่ายทรัพย์สินทั้งหมด 8,000 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.49 ล้านบาท ) ให้การกุศลตามที่ตั้งใจไว้ตลอดชีวิตเรียบร้อยแล้ว เวลานี้ เขาเหลือเงินไว้เฉพาะดำรงชีวิตในบั้นปลายเท่านั้น แต่เจ้าตัวยืนยันว่า เขามีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ฟีนีย์ วัย 89 ปี เป็นอดีตผู้ร่วมก่อตั้ง ดิวตี้ฟรี ช้อปเปอร์ส ร้านค้าปลอดภาษีที่มีสาขาอยู่ในสนามบินทั่วโลก กับรอเบิร์ต มิลเลอร์ ในปี 2503 แต่เป็นที่รู้จักในฐานะมหาเศรษฐีใจบุญผู้ประกาศมอบเงินทั้งหมดเพื่อสาธารณประโยชน์ และลาลับแบบตัวเปล่า ซึ่งล่าสุด ความตั้งใจของเขาลุล่วงแล้ว หลังกระจายทรัพย์สินกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ผ่านทางองค์กรการกุศล Atlantic Philanthropies ของเขาเอง และลงนามเอกสารยุบองค์กรอายุ 38 ปีแห่งนี้แล้ว เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563
เกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ฟีนีย์ บริจาคเพื่อการศึกษา 3,700 ล้านดอลลาร์ จำนวนนี้เกือบ 1,000 ล้านมอบให้กับมหาวิทยาลัยคอร์เนล สถาบันการศึกษาที่เขาเป็นศิษย์เก่า กว่า 870 ล้านดอลลาร์บริจาคเพื่อการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนและการเปลี่ยนแปลงสังคม จำนวนนี้ 62 ล้านดอลาร์ให้เป็นทุนรณรงค์ยกเลิกโทษประหารในสหรัฐ และ 76 ล้านดอลลาร์สนับสนุนการเคลื่อนไหวระดับรากหญ้าผลักดันนโยบายประกันสุขภาพ โอบามาแคร์
กว่า 700 ล้านดอลลาร์ บริจาคด้านสาธารณสุข จำนวนนี้นำไปใช้ยกระดับสาธารณสุขในเวียดนาม 270 ล้านดอลลาร์ และสถาบันสุขภาพสมองโลก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในซานฟรานซิสโก 170 ล้านดอลลาร์
หนึ่งในของขวัญสุดท้ายจากมหาเศรษฐีใจบุญ คือการมอบเงิน 350 ล้านดอลลาร์ให้มหาวิทยาลัยคอร์เนล ใช้สร้างวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีบนเกาะรูสเวลท์ในนิวยอร์ก
ชัค ฟีนีย์ก่อตั้งองค์กร Atlantic Philanthropies ในปี 2527 และโอนผลกำไรจากการทำธุรกิจจำนวนมากเข้าองค์กรฯแบบไม่เคยเปิดเผยตัวนานถึง 15 ปีจนได้ฉายา “เจมส์บอนด์แห่งความใจบุญ” เขาเป็นผู้บุกเบิกแนวคิด “ให้ขณะยังมีชีวิตอยู่” (Giving While Living) วิธีคิดแบ่งปันความมั่งมีไปกับการบริจาคครั้งใหญ่เพื่อสาธารณประโยชน์ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ แทนก่อตั้งมูลนิธิหลังเสียชีวิตไปแล้ว
ฟีนีย์ ให้สัมภาษณ์นิตยสารฟอร์บส์ ว่า เขารู้สึกดีมากที่ได้ทำทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ และขอบคุณทุกคนที่เข้ามาร่วมเดินบนเส้นทางเดียวกัน “ใครที่ยังลังเลที่จะให้ขณะยังมีชีวิต ได้โปรดลองดู แล้วคุณจะชอบ”
ในบทความ "The Billionaire Who Is Trying To Go Broke” หรือ “เศรษฐีพันล้านผู้พยายามจะสิ้นเนื้อประดาตัว” ในนิตยสารฟอร์บ ปี 2555 ฟีนีย์ เผยความตั้งใจว่าจะกันเงินไว้ 2 ล้านดอลลาร์เท่านั้นไว้ใช้ในบั้นปลายกับภรรยา และว่าเขามีความสุขที่สิ่งที่กำลังอยู่ ช่วยเหลือผู้อื่นได้ และไม่มีความสุขเมื่อสิ่งที่กำลังอยู่ ช่วยคนอื่นไม่ได้
“ผมไม่เห็นเหตุผลที่จะรีรอการให้ ในเมื่อวันนี้ สามารถทำเรื่องดีๆให้สำเร็จได้ด้วยการสนับสนุนเป้าหมายที่คุ้มค่า ยิ่งไปกว่านั้น การให้ขณะยังมีชีวิต สนุกกว่าให้เมื่อตายไปแล้ว” อีกวาทะว่าด้วยการให้ของมหาเศรษฐีใจบุญ
ความเอื้อเฟื้อของมหาเศรษฐีคนดัง ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ธรรมดาในซานฟราซิสโก คือแรงบันดาลใจให้บิล เกตส์ และวอร์เรน บัฟเฟต์ ก่อตั้ง Giving Pledge ในปี 2553 เพื่อรณรงค์ให้เศรษฐีทั่วโลกสัญญาว่าจะยกสมบัติอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเพื่อการกุศลก่อนเสียชีวิต บิลเกตส์ กล่าวว่า ชัคได้สร้างทางไว้ให้ผู้ใจบุญทุกคนดำเนินรอยตาม ก่อนตั้ง Giving Pledge ชัคแนะนำว่าเราควรกระตุ้นให้เศรษฐียกสมบัติมากที่สุดขณะยังมีชีวิต ไม่ใช่แค่50 % ขณะที่บัฟเฟตต์ กล่าวว่า ชัคเป็นต้นแบบและเป็นฮีโรของพวกเราทุกคน