เหยื่อแจ้งจับ "อู่รถหัวหมอ" หลอกทำประกันเอาเงินเคลมรถ

วันนี้ 11 ก.ย. 2563 ที่ สน.บางเขน น.ส.กัญณัฏฐ์ แสงไกรชัยกิจ พร้อมด้วย น.ส.พิชญา (นามสมมติ) เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของอู่รถยนต์ย่านรามอินทราซอย 5 หลังจากนำรถไปทำสีแล้วสืบพบว่ารถถูกนำไปขับชนเพื่อเรียกเคลมเงินประกัน สร้างความเสียหาย 120,000 บาท พร้อมกับนำหลักฐานคลิปเสียงการสนทนากับเจ้าของอู่มามอบให้พนักงานสอบสวนในครั้งนี้ด้วย

โดย น.ส.กัญณัฏฐ์ กล่าวว่า เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าไปทำสีรถที่อู่แห่งนี้ ในราคา 20,000 บาท จากนั้นเจ้าของอู่ได้โน้มน้าวให้ซื้อประกันภัยรถยนต์ โดยอ้างว่าบริษัทประกันสามารถเข้ามาเคลมเพื่อนำมาลดค่าใช้จ่ายในการทำสีรถได้ ซึ่งอู่จะลดราคาค่าทำสีให้ครึ่งหนึ่ง เหลือ 10,000 บาท ตนจึงตัดสินใจซื้อประกันภัยจากบริษัทแห่งหนึ่ง จากนั้นได้นำรถเข้าอู่เพื่อทำสีวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมจ่ายเงินมัดจำ 5,000 บาท โดยเจ้าของอู่ให้ตนไปเปิดสมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มฝากไว้ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการเบิกจ่ายเคลมประกันเงินทำสี เพราะอู่นี้ไม่อยู่ในเครือบริษัทประกัน

น.ส.กัญณัฏฐ์ กล่าวต่ออีกว่า กระทั่งวันที่ 8 ส.ค.ตนไปรับรถพบว่ามีการทำสีไม่เต็มคันตามที่ตกลงไว้ ซึ่งมีการทำสีแค่ด้านนอก แต่ขอบประตูด้านในเป็นสีขาวซึ่งเป็นสีเดิม โดยทางอู่อ้างว่าทำแบบนี้ก็เพื่อเวลาไปขายต่อจะได้รู้ว่าสีเดิมคือสีอะไร ซึ่งตนมองว่าไม่น่าจะใช่ จึงไม่ยอม จากนั้นเจ้าของอู่จะลดราคาให้ในส่วนที่ตนจะต้องจ่ายส่วนที่เหลืออีก 5,000 บาท เมื่อไปตรวจเช็คสภาพรถอย่างละเอียดก็พบว่าอะไหล่ชำรุด อุปกรณ์ภายในถูกถอดออก พวงมาลัยสั่น ล้อแม็กเสียหาย และระบบไฟทั้งหมดมีปัญหา จึงนำรถกลับไปซ่อมที่อู่เดิมอีกครั้ง เพราะคิดว่าอู่ทำงานไม่เรียบร้อย

พอกลับมารับรถกลับพบว่ารถมีสภาพชำรุดหนักกว่าเดิม ซึ่งจากการสอบถามบริษัทประกันภัยรถยนต์ก็ทราบว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีการเคลมประกันเฉี่ยวชนเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนถึง 6 ครั้ง รวมค่าสินไหมกว่า 120,000 บาท จากนั้นจึงมาทราบว่ารถของตนถูกขับไปชนกับรถของ น.ส.พิชญา ที่พุทธมณฑลสาย 3 ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา

ด้าน น.ส.พิชญา กล่าวว่า ช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนเอารถโตโยต้ายาริสไปทำสีที่อู่นี้ เพราะได้รับคำแนะนำมาว่ารับทำสีรถราคาไม่แพง ทั้งยังเห็นว่ามีรถจอดเยอะ จึงตัดสินใจไปเปลี่ยนสีรถจากสีขาวเป็นสีเทา ก่อนที่จะถูกโน้มน้าวให้ทำประกันภัยเหมือนกัน ซึ่งอู่ดำเนินการให้ทุกอย่าง ตนมีหน้าที่จ่ายเงินแล้วรับเล่มกรมธรรม์ออกมาเท่านั้น พอถึงวันนัดรับรถกลับพบว่าเป็นสองสีเหมือนกัน คือทำสีรถไม่เต็มทั้งคันและแอร์ไม่เย็น ขับแล้วเหมือนเครื่องจะดับ รวมถึงพวงมาลัยแข็ง จึงไปซ่อมที่อู่อื่นเพราะไม่สบายใจที่จะให้อู่เดิมทำแล้ว

น.ส.พิชญา กล่าวอีกว่า ต่อมาตนเห็นข่าวของ น.ส.กัญณัฏฐ์ ก็พบว่าภาพรถของตนเป็นรถคู่กรณี จึงหาทางติดต่อกันจนทราบว่ามีการนำรถเข้ามาทำสีที่อู่เดียวกัน จากนั้นจึงสอบถามบริษัทประกันก็ทราบว่าที่ผ่านมารถตนถูกชนไป 8 ครั้ง เคลมประกัน 3 ครั้ง เป็นเงินกว่า 90,000 บาท เมื่อไปเรียกร้องค่าเสียหายกับอู่นี้แต่กลับถูกปฏิเสธ โดยเจ้าของอู่อ้างจะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ก็เงียบมาจนทุกวันนี้