
"วันนอร์" ยื่น จม.ลาออก ส.ส. ทิ้งทวนสอนประชาธิปไตย
"วันนอร์" ทำ จม.ถึงประธานสภาฯ ลาออก ส.ส. แล้ว ทิ้งทวนสอนประชาธิปไตย ควรมีการแบ่งปัน ช่วยกันทำงาน เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ควรจะยึดติดในตำแหน่งหน้าที่ว่าเป็นแล้ว ต้องเป็นตลอด ไม่มีใครจะทดแทนเราได้ ประชาธิปไตยมันต้องเปลี่ยนผ่าน ทดแทนกันได้
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อได้ทำจดหมายถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส. )
โดยจดหมายฉบับดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้
สภาผู้แทนราษฎร
10 กันยายน 2563
เรื่อง ขอลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
กราบเรียน ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ด้วย กระผม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ลำดับที่ 1 เลขประจำตัวสมาชิก 325 มีความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2563 เป็นต้นไป
อนึ่ง บัญชีรายชื่อของพรรคประชาชาติ ลำดับที่ 2 ต่อจากกระผม คือ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการด้วย
ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง
(นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา)
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ
เลขประจำตัวสมาชิก 325
ขณะเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้ทำเอกสารชี้แจงประกอบการลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีใจความว่า ประชาธิปไตยควรมีการแบ่งปัน ช่วยกันทำงาน เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ ผมเห็นว่าเมื่อผมทำงานได้ระดับหนึ่ง และคิดว่าสมาชิกผู้แทนราษฎรนั้น ด้วยความที่ผมเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถ้าผมลาออก ลำดับถัดมาก็จะขึ้นมาเป็นแทน
ซึ่งคนนั้นคือ “ท่านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง” ซึ่งเป็นคนที่ผมติดตามการทำงานของท่านนอกสภาผลงานมากมาย ส่วนในสภาท่านก็ได้เป็นกรรมาธิการที่สำคัญหลายชุด เช่น กรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการงบประมาณ และกรรมาธิการอื่น ๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในความขยันขันแข็ง การทำหน้าที่ของท่าน และการประสานงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งท่านทวีได้ทำหน้าที่ประสานงานได้ดีมากและดีกว่าผมอีก เพราะฉะนั้นผมคิดว่าควรให้โอกาสคนที่จะทำงานได้ดีกว่า และเพื่อตอบแทนสิ่งที่เลขาธิการพรรคได้เสียสละเพื่อพรรคมาโดยตลอด ก็คิดว่าท่านควรได้รับเกียรติมาทำงานในฐานะ ส.ส.คนหนึ่งของรัฐสภา และผมเชื่อว่าจะทำงานในสภาได้ดีกว่าผมอีก ด้วยวัย ประสบการณ์ และความตั้งใจของท่าน
เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเป็นวาระ และเป็นความสบายใจอย่างที่สุดที่จะได้มอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมมองว่าประชาธิปไตยนั้น ไม่ควรจะยึดมั่น ยึดติดในตำแหน่งหน้าที่ว่าเป็นแล้ว ต้องเป็นตลอด แล้วก็ไม่มีใครจะทดแทนเราได้ ประชาธิปไตยมันต้องเปลี่ยนผ่าน ทดแทนกันได้ และอะไรที่มันแบ่งปันกันในหน้าที่การงาน และช่วยกันให้ประชาชนได้ประโยชน์ ก็ควรจะทำ นี่เป็นครรลองของประชาธิปไตย"
9 กันยายน 2563
รัฐสภาไทย