
ชาวบ้านบุกป่าอ้อยพิสูจน์ "กระสือ" ก่อนเจอเรื่องประหลาดจนต้องรีบเผ่นออกมา
หนุ่มวัย 30 ไม่เชื่อเป็นกระสือปากลั่นอยากเจอ สุดท้ายเกือบหัวโกร๋นหลังเห็นดวงไฟปริศนาลอยตามรถ ด้านเจ้าของป่าอ้อยจุดที่ดวงไฟลอยไปตก เล่าเคยเห็นประจำแต่ไม่สนใจคิดว่าคนส่องกบ ก่อนเจอเหตุประหลาดขณะจุดธูปไหว้ขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง
จากกรณีที่มีผู้พบเห็นดวงไฟประหลาดในพื้นที่หมู่ 17 บ้านเขาน้อย ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่าเป็นกระสือ และต่อมาเมื่อช่วงกลางดึกเวลาประมาณ 23.00 น.ของคืนวันที่ 3 ก.ย. ได้มีชายหนุ่มในหมู่บ้านซึ่งเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์และสิ่งเร้นลับ โดยเฉพาะเรื่องดวงไฟประหลาดของกระสือ แต่กลับพบเจอเรื่องประหลาดขณะกลับบ้าน จนถึงขั้นทำอะไรไม่ถูก
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบก็พบกับนายประทวน สายอยู่ หรือ แมน อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกชายนางมาลัยทอง สายอยู่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 17 บ้านเขาน้อย โดยเผยว่า ปกติตนไม่เคยเห็นและไม่เคยเชื่อเรื่องนี้มาก่อน โดยช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ ขณะที่ตนนอนเล่นอยู่ที่เปลหน้าบ้านก็ได้พูดว่า "ดวงไฟที่มาปรากฏนั้นอยากรู้ว่าต้องการอะไร อยากได้อะไร ถ้าเป็นดวงวิญญาณหรือเป็นผีกระสือก็มาปรากฏกายให้เห็นหน่อย จะได้ทำบุญไปให้" พอพูดไปไม่เกินชั่วโมงประมาณ 4 ทุ่ม ก็ออกมานอนที่เปลหน้าบ้านอีก จากนั้นไม่นานก็มีแมลงบินมาเข้าหู ทำอย่างไรก็เอาไม่ออก จึงให้แฟนขับรถยนต์พาไปโรงพยาบาลวิเชียรบุรี เพื่อให้หมอช่วยเอาออก เมื่อเอาออกได้แล้วจึงเดินทางกลับ
อ่านข่าว วุ่นทั้งหมู่บ้าน ดวงไฟประหลาดโผล่เหนือต้นไม้ ชาวบ้านขนหัวลุกเชื่อเป็น กระสือ
"ขณะนั้นเวลาประมาณใกล้เที่ยงคืน และเมื่อขับรถมาใกล้จะถึงบ้าน มองไปทางซ้ายก็เห็นมีลูกไฟลอยมา เหมือนกลับว่าลอยมาตามรถตน พอกลับมาถึงบ้านก็มานั่งสัก 5 นาที เวลา 5 ทุ่ม 45 ก็มองเห็นแสงประหลาดลอยขึ้น ก็เลยชะโงกหัวออกไปดูแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่าย ก็เห็นว่ามีดวงไฟลอยไปลอยมา แล้วค่อยๆลอยไปตกและดับอยู่ที่บริเวณป่าอ้อย ตนจึงเรียกพี่ชายมาดู แต่พี่ชายไม่ได้ยินเพราะมัวแต่เล่นโทรศัพท์ ตนเลยรีบถ่ายคลิปเอาไว้ และเก็บเรื่องนี้ไว้จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงมาเล่าให้แม่ฟัง พร้อมกับชักชวนชาวบ้านเตรียมที่จะเข้าไปพิสูจน์จุดที่ลูกไฟตก"
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 ก.ย.63 ที่ผ่านมา นางมาลัยทอง สายอยู่ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 17 บ้านเขาน้อย พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปยังบริเวณจุดที่คาดว่าดวงไฟประหลาดตก ก่อนพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นป่าอ้อย มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ 1 สระ และตรงข้ามสระน้ำมีศาลเจ้าที่เจ้าทางที่ทำด้วยสังกะสี และใกล้ๆกับศาลก็เป็นห้องน้ำร้าง มีจอมปลวกขึ้นอยู่ใต้พื้น และมีผ้าสามสีพันอยู่กับจอมปลวกด้วย
โดย นายพิทยา ขุนนิทักษ์ อายุ 65 ปี เจ้าของที่ดินดังกล่าว กล่าวว่า ตนซื้อที่ดินแปลงนี้มาจากชาวบ้านรายหนึ่งเมื่อหลายปีแล้ว โดยได้ปลูกอ้อยมาทุกปี แต่ก่อนหน้านั้นสระน้ำมีขนาดเล็กและมีศาลตั้งอยู่ข้างๆ ตนต้องการที่จะขุดสระให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อจะได้กักเก็บน้ำได้มากขึ้น จากนั้นได้ย้ายศาลมาไว้ข้างๆกับห้องน้ำ ที่ผ่านมาตนเห็นแสงไฟอยู่เป็นประจำ แต่คิดว่าเป็นไฟฉายจากคนที่มาส่องกบ ส่องเขียด จึงไม่ได้สงสัยหรือกลัวอะไร กระทั่งมาทราบข่าวว่ามีสิ่งเร้นลับเกิดขึ้น วันนี้จึงได้นำธูปเทียนมากราบไหว้ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าที่เจ้าทาง หากมีการลบหลู่หรือทำในสิ่งไม่ดี ซึ่งขณะที่ตนกำลังจุดธูปเทียนไหว้และกำลังบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางอยู่นั้น จู่ๆก็มีความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาสะกิด และพูดไม่ออก อยากจะร้องไห้อย่างเดียว และจิตใจไม่ค่อยดี
ขณะที่ ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่เดินทางมาด้วยกัน ได้สังเกตเห็นนายพิทยามีอาการที่ผิดปกติ หยุดพูดกะทันหัน และเงียบไปพักใหญ่ จากนั้นได้ร้องไห้เสียงดังออกมา ทำให้นายประทวน สายอยู่ หรือ แมน ต้องรีบเข้าไปประคองตัวนายพิทยาเอาไว้ ขณะที่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รวมทั้งผู้สื่อข่าวต่างก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อหายตกใจจึงได้ช่วยกันปลอบนายพิทยาให้หยุดร้องไห้ ซึ่งนายพิทยาก็ได้พยายามบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางจนเสร็จ แต่ก็บอกไปด้วยร้องไห้ไปด้วย จากนั้นทั้งหมดก็รีบเดินทางออกจากพื้นที่ทันที โดยไม่มีใครกล้ารอพิสูจน์แสงไฟกันเลยแม้แต่คนเดียว
ชัยวัฒน์ ปานนิล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดเพชรบูรณ์