
อัญเชิญ "องค์ครุฑ ตราแผ่นดิน" ขึ้นสู่หน้าบันศาลจังหวัดอุตรดิตถ์หลังใหม่
"เริงศักดิ์" อธิบดีผู้พิพากษา ภาค 6 อัญเชิญ "องค์ครุฑ ตราแผ่นดิน" ขึ้นสู่หน้าบันศาลจังหวัดอุตรดิตถ์หลังใหม่ ขนาด 14 บัลลังก์ งบกว่า 300 ล้าน แทนอาคารเดิมที่คับแคบรับคดีเพิ่มมากขึ้นทุกปีสูงถึงกว่า 7 พันคดี เริ่มเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ 24 กันยายนนี้
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 63 ที่บริเวณศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ (หลังใหม่) เลขที่ 7 หมู่ 9 ถนนสายเอเชีย พิษณุโลก-เด่นชัย ต.น้ำริด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ นายเริงศักดิ์ วิริยะชัยวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษา ภาค 6 เป็นประธานในพิธีบวงสรวงและอัญเชิญองค์ครุฑขึ้นประดิษฐานหน้าบันอาคารศาลจังหวัดอุตรดิตถ์หลังใหม่ มี น.ส.งามจิตร อ้นยาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ ในพิธีบวงสรวงและอัญเชิญองค์ครุฑขึ้นประดิษฐานหน้าบันอาคารดังกล่าวว่า ตามคติไทยโบราณเชื่อกันว่า ครุฑเป็นพญาแห่งนกทั้งมวล เป็นเทพพาหนะของพระนารายณ์ ได้รับพรให้เป็นอมตะ มีพละกำลังมหาศาลและแข็งแรง ไม่มีศาสตราวุธใดทำลายลงได้ มีสติปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาด อ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ จึงได้นำครุฑมาเป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นตราประจำแผ่นดินหรือตราพระราชลัญจกร ซึ่งหมายถึงพระราชบัลลังก์
“ตราครุฑ” ยังใช้เป็นตราประจำสถานที่ราชการและใช้ตราบนหัวหนังสือหรือเอกสารต่างๆของทางราชการ ดังนั้น เพื่อให้อาคารศาลมีภาพลักษณ์ สมกับเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ ที่ได้ปฏิบัติราชการในพระปรมาภิไทพระมหากษัตริย์ ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้จัดพิธีบวงสรวงและอัญเชิญองค์ครุฑขึ้นประดิษฐาน ณ หน้าบันอาคารศาลจังหวัดอุตรดิตถ์หลังใหม่ เพื่อความสง่างามและเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปฏิบัติราชการ ตลอดจนผู้มาติดต่อราชการในศาลแห่งนี้ และผดุงไว้ ซึ่งความยุติธรรมสืบไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีบวงสรวงและอัญเชิญองค์ครุฑ มีพระสงฆ์ 10 รูป ร่วมเจริญพุทธมนต์อ่านโอ่งการบวงสรวงบูชาพญาครุฑกำลังแผ่นดินและเทพเทวดา โดย ผู้ช่วยศาสราจารย์ หัสดิน เชาวนปรีชา ในฐานะพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีบวงสรวงสักการะ เริ่มจากบทสวดพระรัตนตรัย บอกกล่าวแทวดา บอกกล่าวครุฑ พร้อมถวายเครื่องบวงสรวง ประกอบด้วย ผลไม้ 7 อย่าง ขนมหวาน น้ำนม น้ำแดงและน้ำบริสุทธิ์
ทั้งนี้ ระหว่างยกองค์ครุฑขึ้นสู่หน้าบันศาลจังหวัดอุตรดิตถ์หลังใหม่ พระสงฆ์ 10 รูป เริ่มสวดเจริญพุทธมนต์ บทสวดชัยมงคลคาถา เพื่อเสริมพลังอำนาจบารมีแก่องค์ครุฑและเพื่อความเป็นสิริมงคลในพิธีครั้งนี้
โดยมี นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยคณะผู้พิพากษาศาลจังหวัด, ผู้พิพากษาศาลประจำศาลเยาวชนและครอบครัว, ผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัว ในพื้นที่ ภาค6, อัยการจังหวัดอุตรดิตถ์ ข้าราชการทหารสังกัดมณฑลทหารบกที่35 ข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์, ทนายความจังหวัดอุตรดิตถ์ หัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชน เข้าร่วมพิธีอันเป็นมงคลครั้งนี้จำนวนมาก โดยศาลจังหวัดอุตรดิตถ์หลังใหม่นี้ จะเริ่มเปิดใช้ทำการอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 กันยายน 2563
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 13,612 ตารางเมตร มีบัลลังก์ไว้อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน จำนวน 5 บัลลังก์ บัลลังก์ที่ 1-4 ตั้งอยู่ชั้นที่ 2 ของอาคารที่ทำการศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนบัลลังก์ที่ 5 ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อดูปริมาณคดีที่ฟ้องต่อศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556-2559 มีจำนวน 4,725 คดี, 6,058 คดี 6,333 คดี และ 7,777 คดี ตามลำดับ
ปัจจัยทางด้านความคับแคบของอาคารที่ทำการจึงไม่เอื้ออำนวยต่อการทำหน้าที่ของศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปีงบประมาณ 2559 สำนักงานศาลได้รับการจัดสรรงบประมาณ สำหรับก่อสร้างอาคาร ที่ทำการศาลจังหวัดอุตรดิตถ์หลังให่ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 347,400,000 บาท โดยเป็นอาคารที่ทำการศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ขนาด 14 บัลลังก์ พร้อมบ้านพักผู้พิพากษาหัวหน้าศาล 1 หลัง ผู้พิพากษา 7 หลัง ผู้อำนวยการ 1 หลัง อาคารชุดสำหรับเจ้าหน้าที่ธุรการศาล 2 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักจำนวน 12 ห้อง ซึ่งจะต้องทำการก่อสร้างบนที่ดินสาธารณประโยชน์ม่อนสวนคา หมู่ 9 ต.น้ำริด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เนื้อที่ประ มาณ 28 ไร่ ซึ่งห่างจากที่ตั้งที่ทำการศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ หลังปัจจุบันไปทางทิศเหนือประมาณ 12 กิโลเมตร
สมภพ สินพิพัฒนฤดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดอุตรดิตถ์