"พิชัย" ชี้ "ปรีดี" ลาออก ห่วงเศรษฐกิจหมดความน่าเชื่อถือ

2 ก.ย.2563 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่นายปรีดี ดาวฉาย รมว.คลังได้ลาออกจากตำแหน่ง ได้สร้างผลสั่นสะเทือนให้กับเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์  อย่างมาก เท่ากับรัฐมนตรีคนนอกที่รัฐบาลเชิญมาและเหมือนไปตื้อมาเพราะไม่มีคนที่มีชื่อเสียงคนไหนอยากจะเข้ามาร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดหนักและภาวะการเมืองที่ผันผวนที่รัฐบาลถูกนักศึกษาและประชาชนจำนวนมากออกมาขับไล่เช่นนี้  แต่อยู่ได้เพียง 25 วัน ก็ต้องถอดใจลาออกไป 

ทั้งนี้ หากจำกันได้ ตนได้เตือน รมต.คนนอกแล้วว่าให้คิดให้ดีและอย่าเข้ารับตำแหน่ง เพราะภาวะเศรษฐกิจหนักหนาสาหัสมาก เป็นผลจากการบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลวมาตลอด 6 ปี ซึ่งนายปรีดี คงเข้าไปเห็นตัวเลขแล้วจึงอาจจะเครียดจนถอดใจ อีกทั้งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคือ พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ขาดความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจหรือเรียกได้ว่าไม่รู้เรื่องทางเศรษฐกิจเลย และความกดดันจากคนในพรรคพลังประชารัฐที่ขนาด นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ 4 กุมารยังทนไม่ได้  แถมล่าสุดยังมีความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังที่ตนได้เตือนว่าหาก รมว.คลังไม่สามารถแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงได้ตามที่ต้องการ จะทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะข้าราชการจะไม่เชื่อฟัง รมว.คลัง และสมควรที่จะต้องลาออก แต่ไม่คิดว่านายปรีดีจะลาออกจริงๆ ตามที่ตนได้เสนอไว้ และเป็นห่วงว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว. พลังงานที่น่าจะต้องเจอกับภาวะกดดันที่คล้ายกันจะสามารถทนได้ขนาดไหน 

การลาออกของนายปรีดี  แสดงให้เห็นชัดเจนถึงปัญหาในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่เพิ่งเปลี่ยนทีมนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ 4 กุมาร ออกไป เพราะความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ และจะยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีเหลือแล้ว ซ้ำเติมจากปัญหาเรื่องการซื้อเรือดำน้ำและคดีฟ้องร้องการปิดเหมืองทองที่ประชาชนไม่พอใจกันอย่างมาก และสมควรที่ พล.อ.ประยุทธ์จะรู้ตัวได้แล้วว่าหมดเวลาในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดหนักจะเกินความรู้ความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์จะแก้ไขได้ และพล.อ.ประยุทธ์ควรจะต้องรีบลาออกตามนายปรีดีไปได้แล้ว เพื่อให้คนที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงเข้ามาบริหารประเทศแทน ยิ่งพล.อ.ประยุทธ์พยายามดื้อรั้นที่จะอยู่ต่อไป ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ เหมือนรอวันเจ๊งเท่านั้น