"วิชา" ส่งรายงานคดี "บอส"ถึงมือ "บิ๊กตู่"แล้ว

เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2563 เวลา 11.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน นำรายงานฉบับสมบูรณ์ ในการค้นหาความจริงกรณีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

จากนั้นเวลา 12.00 น.นายวิชาให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายกฯ  ว่า รายงานที่ส่งให้นายกฯมีอยู่ประมาณ 100 หน้า แต่ข้อสรุปมีประมาณ 10 หน้าที่จะเป็นรายละเอียด โดยเขียนไว้ชัดเจนว่าเกิดความบกพร่องที่ใคร หน่วยงานไหน โดยการเข้าพบนายกฯเพื่อรายงานข้อสรุปมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมรับฟังด้วย และนายกฯได้รับฟังพร้อมจดบันทึกด้วยตัวเอง และบอกว่าในวันที่ 1 ก.ย.จะนำข้อสรุปดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะมีหลายเรื่องเป็นข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ  ที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย และหลายหน่วยงานที่จะต้องนำไปปฏิบัติต่อ  ทั้งนี้ขอให้รอฟังรายละเอียดซึ่งนายกฯจะแถลงในวันที่ 1 ก.ย. พร้อมกับแจกข้อมูลสำคัญที่เป็นเอกสารให้กับสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ด้วย เพราะถือว่าการตรวจสอบของคณะกรรมการฯเป็นการตรวจสอบโดยโปร่งใส ไม่มีลับลมคมใน  จึงต้องการนำเรื่องนี้ไปสู่การแก้ไขอย่างแท้จริง  และจากนั้นตนก็จะแถลงข่าวต่อ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

นายวิชา กล่าวต่อว่า ในเอกสารข้อสรุปที่นายกฯจะนำมาเปิดเผย  ในรายละเอียดจะรู้ว่าใครผิดอยู่ในนั้นทั้งหมด เขียนชัดเจน ไม่มีกั๊ก มีทั้งชื่อ ทั้งตำแหน่ง ทั้งหน่วยงาน ส่วนก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่ามีคนผิดทั้งวินัย อาญา และจริยธรรม มั่นใจหรือนำไปดำเนินการถึงขั้นเอาผิดให้ได้หรือไม่นั้น  มีอยู่ในรายงานทั้งหมด และนายกฯตั้งใจอยู่แล้วว่าจะต้องส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการต่อไป

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำหลักฐานมายืนยันว่าตนเองอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงเวลาที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์  แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  อ้างว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้แนะนำให้รู้จักนักวิชาการ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงความเร็วรถนายวรยุทธ นายวิชา กล่าวว่า เราชัดเจนแล้ว ไปอ่านในสำนวนจะรู้ไม่มีแทงกั๊ก ทำอะไรต้องโปร่งใส เปิดเผย ตรวจสอบได้ ไม่มีคลุมเครือ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คณะกรรมการฯยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่ออีก 30 วัน เพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมต่อไป.