
แปลงใหญ่"มะพร้าวน้ำหอม"ไปลิ่วต่อยอดแปรรูปเพิ่มมูลค่าสู่ตลาดออนไลน์
แปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอมไปลิ่ว กรมส่งเสริมการเกษตรหนุนรวมกลุ่มแล้วใน 8 จังหวัด 17 แปลง พร้อมเสริมความรู้เกษตรกรที่ดำเนินสะดวก หวังต่อยอดสร้างแปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์ สร้างตลาดเปิดช่องทางออนไลน์ เผยปัจจุบันมีสมาชิกแปลงใหญ่ มีพื้นที่ปลูกรวม 3,000 ไร่
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า มะพร้าวน้ำหอม นับเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้แนะนำให้เกษตรกรปลูกเพื่อตอบสนองความต้องการ
ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มภายใต้ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปัจจุบันเกษตรกรมีการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่แล้วจำนวน 17 แปลง ใน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา นครปฐม สมุทรปราการ และจังหวัดสงขลา
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
รวมจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วม 533 ราย ทั้งนี้การส่งเสริมแปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอมเน้นให้เกษตรกรใช้หลักตลาดนำการผลิต และใช้ช่องทางการตลาดใหม่ๆ เช่น การจำหน่ายผ่านสื่อออนไลน์
นายประยูร กล่าวอีกว่า สำหรับการทำสวนมะพร้าวน้ำหอมในปัจจุบัน เพื่อสนองตอบความนิยมของผู้บริโภคที่เน้นใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น จึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นสวนมะพร้าวน้ำหอมแบบอินทรีย์ที่เน้นให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่มีการใช้สารเคมี หันมาใช้ตัวห้ำตัวเบียนในการช่วยกำจัดแมลงศัตรูมะพร้าว เช่น การใช้แตนเบียน เข้ามาช่วยควบคุมแมลงศัตรูมะพร้าว ซึ่งได้รับการสนับสนุนพ่อแม่พันธุ์และองค์ความรู้จากกรมส่งเสริมการเกษตร ลดการใช้สารเคมี เพื่อสร้างผลผลิตคุณภาพที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
"รวมถึงการพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น จำหน่ายในรูปแบบน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มในขวดใส และมะพร้าวแก้วพร้อมรับประทาน โดยขูดเนื้อและมีน้ำใส่แก้วซีลฝาอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวน้ำหอมทั้งหมด เช่น น้ำตาลมะพร้าวและต้นพันธุ์มะพร้าว”นายประยูร กล่าว
นายประยูร กล่าวต่อไปว่า สำหรับสายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมที่นิยมปลูกเป็นพันธุ์ก้นจีบ ซึ่งมีลักษณะเด่นคือให้ผลขนาดใหญ่และปริมาณน้ำมะพร้าวมากแต่ละปีสามารถเก็บผลผลิตออกขายได้ประมาณ 15–18 ทะลาย โดยตัดผลได้ทุก 20 วัน
สำหรับการดูแลจัดการสวน ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนอย่างในขณะนี้ จะปล่อยให้ต้นมะพร้าวเติบโตไปตามธรรมชาติ ส่วนหน้าแล้งจะคอยดูแลรดน้ำทุก 3 วัน ตัดหญ้าให้สั้น ไม่รกรุงรัง และรักษาความชื้นบนผิวดินสามารถเก็บผลผลิตออกขายได้ตลอดทั้งปี
แต่ช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมีนาคม–เมษายน ผลผลิตน้อยลดลงจากปกติประมาณ ร้อยละ70–80 จึงต้องจัดการดูแลสวนมะพร้าวอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ต้นมะพร้าวขาดคอ โดยใช้วิธีการให้น้ำบำรุงต้น และให้ปุ๋ยคอกจากขี้หมู โดยบำรุงต้น เฉลี่ย 4 เดือน/ครั้ง และเฉลี่ยต้นละ 1 กระสอบ
“ที่สำคัญอีกประการและเป็นปัญหาที่เกษตรกรทำสวนมะพร้าวต้องประสบ คือ การระบาดของหนอนหัวดำในช่วงฤดูแล้ง เพราะแมลงศัตรูพืชชนิดนี้ ชอบอากาศร้อนแล้ง จึงคอยดูแลจัดการสวนให้มีความชื้นอย่างสม่ำเสมอในช่วงฤดูแล้ง โดยใช้เรือรดน้ำในแปลงปลูกมะพร้าวทุก 3 วัน ครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง วิธีนี้ใช้ได้ผลดี เพราะไม่ค่อยเจอปัญหาหนอนหัวดำระบาดรุนแรงเหมือนกับที่อื่นๆ” นายประยูร กล่าว
นายประยูร กล่าวด้วยว่า ส่วนการจัดการด้านการตลาด จะมีการวางแผนการผลิตร่วมกับกลุ่มสมาชิกแปลงใหญ่ที่วันนี้มีพื้นที่ปลูกรวม 3,000 ไร่ ซึ่งเน้นทำตลาดเองทั้งหมด ไม่ส่งผ่านพ่อค้าคนกลาง ด้วยการบริหารจัดการให้เป็นระบบทั้งในรูปของผลสด และต่อยอดเพิ่มมูลค่าด้วยการนำมาแปรูปเป็นผลผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างการรับรู้ของลูกค้าผ่านสื่อออนไลน์เป็นหลัก
ด้านนายประยูร วิสุทธิไพศาล ประธานแปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอมตำบลแพงพวย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี กล่าวเสริมว่า จากการที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้เข้ามาช่วยสนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอม ทำให้เกษตรกรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะในด้านที่เกี่ยวกับการจัดการ
สวนมะพร้าวน้ำหอมจนถึงการส่งออกการผลิตมะพร้าวน้ำหอมให้ได้คุณภาพและมาตรฐานส่งออก และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวน้ำหอม ทำให้เกิดการยกระดับการปลูกและการจัดการสวนที่ได้มาตรฐาน สามารถสร้างผลผลิตคุณภาพที่ตรงกับความต้องการของตลาด รวมถึงการเปิดช่องทางการตลาดถึงผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น



