ข่าว

พ่อโร่ร้องสื่อ ลูกสาว 17 ปี ถูกทำอนาจารขณะพ่อแม่ออกกรีดยาง 10 เดือนแล้วคดีไม่คืบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ครอบครัวลูกจ้างกรีดยางพารา ร้องลูกสาวถูกคนร้ายงัดประตูบ้านเข้าไปทำอนาจารกลางดึก ขณะพ่อแม่ออกกรีดยาง คดีผ่านมาแล้วเกือบปีแต่ไม่คืบ พนักงานสอบสวนทำพิลึกไม่แจ้งพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงคนร้ายที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ทั้งขณะงัดประตูหน้าบ้าน

ครอบครัวลูกจ้างกรีดยางพารา ร้องลูกสาวถูกคนร้ายงัดประตูบ้านเข้าไปข่มขืนกลางดึก ขณะพ่อแม่ออกกรีดยาง คดีผ่านมาแล้วเกือบปีแต่ไม่คืบ พนักงานสอบสวนทำพิลึกไม่แจ้งพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงคนร้ายที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ทั้งขณะงัดประตูหน้าบ้าน และขณะนี้รื้อค้นหาทรัพย์สิน ทำครอบครัวผู้เสียหายไม่ไว้ใจตำรวจทำคดี หวั่นเข้าข้างคนร้าย มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง

พ่อโร่ร้องสื่อ ลูกสาว 17 ปี  ถูกทำอนาจารขณะพ่อแม่ออกกรีดยาง 10 เดือนแล้วคดีไม่คืบ

วันที่ 21 สิงหาคม 2563 นายชาย (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี พร้อมด้วยนางหญิง (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นครอบครัวลูกจ้างกรีดยางพารา ชาว อ.สิเกา ร้องเรียนผู้สื่อข่าวและพาผู้สื่อข่าวตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายบุกเข้าไปก่อเหตุข่มขืนนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาว และเป็นนักศึกษาอาชีวะแห่งหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของคืนวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 10 เดือน แต่คดีไม่คืบหน้า ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวน สภ.สิเกา หลังรับแจ้งทำพิลึกไม่แจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานภายในบ้านเกิดเหตุ แม้ทางผู้เสียหายจะร้องขอ โดยอ้างว่าไม่มีลายนิ้วมือแฝงคนร้าย ทั้งๆที่คนร้ายใช้วิธีใช้มีดงัดแงะประตูหน้าบ้าน และงัดกลอนจนพังเสียหายและเปิดประตูเข้าไป โดยที่ไม่ได้สวมถุงมือแต่ประการใด ประกอบกับขณะเกิดเหตุยังมีความพยายามค้นหาทรัพย์สินภายในบ้าน ทั้งจากลิ้นชัก และตู้เก็บของ และร่องรอยหลักฐานอื่นๆ จากแท่นชาร์ตโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายดึงเอาไปไม่ได้ ขณะเดียวกันทางตำรวจตรวจยึดโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายเอาไปกลับคืนมาได้แล้ว แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ และยังไล่ให้ครอบครัวผู้เสียหายไปสืบหาคนร้ายเอาเอง ได้เบาะแสให้มาแจ้งตำรวจจะไปจับกุมให้ ทำให้ผู้เสียหายมองว่า เวลาผ่านมาเกือบปี  คดีไม่มีความคืบหน้า และไม่เชื่อมั่นการทำงานของตำรวจ เกรงจะเข้าข้างคนร้าย และมีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง คนร้ายจะลอยนวล ขณะที่ผู้เสียหายยังอยู่อย่างหวาดผวา หากกลับมาบ้าน ในตอนกลางคืนไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียว ต้องนอนกับพ่อแม่ จึงร้องเรียนผู้สื่อข่าว เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา เร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด

พ่อโร่ร้องสื่อ ลูกสาว 17 ปี  ถูกทำอนาจารขณะพ่อแม่ออกกรีดยาง 10 เดือนแล้วคดีไม่คืบ

ทางด้านนางสาวเอ ผู้เสียหายเล่าว่า  เวลาประมาณ 02.00 น.ของคืนดังกล่าว ขณะตนเองนอนหลับอยู่กับน้องชายวัย 7 ขวบ โดยที่พ่อกับแม่ออกไปกรีดยางพารา ได้มีคนร้ายงัดประตูหน้าบ้านเข้ามา และเดินตรงเข้ามาห้องด้านหลัง ซึ่งแบ่งเป็นห้องครัว และห้องนอน  โดยที่ตนเองนอนหลับอยู่บนเตียงกับน้องชาย และสุนัขก็ไม่เห่า ทำให้ตนไม่รู้สึกตัว ซึ่งตอนแรกพอรู้สึกมีคนเข้ามา ตนก็เข้าใจว่าเป็นพ่อลืมของแล้วกลับมาเอา แต่ก็ยังสงสัยทำไมพ่อไม่เรียก  จากนั้นคนร้ายซึ่งสวมตะเกียงติดหน้าผาก ซึ่งเป็นตะเกียงที่ใช้สำหรับสวมติดหน้าผากเวลาออกกรีดยางพารา  สวมกางเกงขาสามส่วน  สวมเสื้อยึดสีดำ สวมรองเท้าบูทยาง ได้บุกเข้ามาประชิดที่นอน และใช้อาวุธมีดมีด้ามจี้และบังคับให้ตนลุกจากที่นอน จากนั้นได้บังคับให้เดินนำหน้า พาไปเข้าห้องนอนอีกห้องหนึ่ง ซึ่งใช้สำหรับเก็บเสื้อผ้า แล้วบังคับข่มขืน โดยที่ตนเองไม่กล้าขัดขืน ตั้งแต่นอนอยู่บนที่นอน เพราะกลัวคนร้ายจะทำร้ายตนเอง และทำร้ายน้องชายซึ่งนอนอยู่ข้างๆ ทั้งนี้ พอตนเองร้อง คนร้ายก็ขู่จะฆ่าให้ตาย จึงยอมทำตามคนร้าย ทั้งนี้ คนร้ายได้ถามตนว่า มาจากไหน และเด็กที่นอนอยู่ข้างๆเป็นใคร ตนจึงโกหกออกไปว่า ตนเองมาจาก จ.นครศรีฯ และคนที่นอนข้างๆคือ ลูก  เพื่อหวังให้คนร้ายปล่อย คนร้ายจึงถามว่า แล้วสามีไปไหน ตนจึงโกหกไปว่า ไปกรีดยาง คนร้ายจึงถามอีกว่า จะกลับตอนไหน ตนจึงโกหกไปว่า อีกประเดี๋ยวก็จะกลับมา.. จากนั้นเมื่อคนร้ายพาตนเองออกมาจากห้อง กลับไปที่นอนที่น้องชายนอนอยู่ที่เดิม  คนร้ายก็ถามตนว่า มีทรัพย์สินอะไรบ้าง จากนั้นได้เดินไปเปิดลิ้นชักและตู้เก็บของ เพื่อเปิดหาทรัพย์สิน จากนั้นจึงหันมาหยิบโทรศัพท์มือถือและพยายามดึงสายชาร์ตโทรศัพท์ออกจากปลั๊กไฟ แต่หัวปลั๊กดึงไม่ออก จึงได้ไปเฉพาะสายและโทรศัพท์ 1 เครื่อง

พ่อโร่ร้องสื่อ ลูกสาว 17 ปี  ถูกทำอนาจารขณะพ่อแม่ออกกรีดยาง 10 เดือนแล้วคดีไม่คืบ

จากนั้นคนร้ายก็เดินออกจากไปทางประตูหน้าบ้าน โดยที่ตนพยายามวิ่งตาม เพื่อจะรีบไปปิดประตูกลัวคนร้ายจะหวนกลับมา และทันสังเกตเห็นคนร้ายเดินข้ามถนนไปทางบ้านฝั่งตรงข้าม ทั้งนี้ ลักษณะของคนร้ายที่จำได้คือ เสียงพูดจะเย็นๆ เหมือนคนใจเย็น รูปร่างผอม สูงกว่าตนเล็กน้อย ประมาณ 167 - 170 ซม.ไหล่งุ้มๆ หรือไหล่ห่อ แต่ตนเองมองหน้าไม่เห็น เพราะจังหวะที่คนร้ายเข้ามาประชิดที่เตียงนอน และตนตื่นลืมตาขึ้นมา ก็มีแสงไฟจากหน้าผากคนร้ายสาดเข้าเต็มดวงตา จนมองไม่เห็นหน้าคนร้าย  และตนเองไม่เคยรู้จักใครแถวบ้าน เพราะปกติเวลากลับมาบ้านก็จะอยู่แต่กับบ้าน รู้จักแต่ญาติไม่กี่คน ยิ่งกับเพื่อนบ้านจะไม่รู้จักใครเลย ทำให้ไม่คุ้นรูปร่าง และเสียงคนร้าย แต่คดีผ่านมานานแล้ว ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ตนเองก็กลัว เพราะคนร้ายขู่เอาไว้หากบอกพ่อกับแม่หรือบอกตำรวจจะกลับมาฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว และหลังเกิดเหตุตนเองเหมือนจะเป็นบ้า แต่มีพ่อ แม่ และน้องชายช่วยปลอบใจ เป็นกำลังใจ โดยเฉพาะน้องชาย พูดปลอบใจทุกวันว่า..อย่าร้องไห้ โดยน้องชายเข้าใจว่าที่ตนร้องไห้ทุกวัน เพราะเสียดายโทรศัพท์ว่าพ่อยึดไป เพราะน้องยังไร้เดียงสา ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเคยคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ห่วงน้อง หากไม่มีตนอยู่ ห่วงว่าน้องจะอยู่อย่างไร เพราะเขารักตนมาก จึงต้องพยายามเข้มแข็ง อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ อยากจะถามว่า มาทำหนูทำไม.. หนูไม่เคยทำอะไรให้ใครเดือดร้อน

พ่อโร่ร้องสื่อ ลูกสาว 17 ปี  ถูกทำอนาจารขณะพ่อแม่ออกกรีดยาง 10 เดือนแล้วคดีไม่คืบ

ทางด้านพ่อและแม่ ของผู้เสียหาย  กล่าวว่า ติดใจการทำงานของตำรวจตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนยกเลิกไม่ให้ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานภายในบ้าน ทั้งๆที่นายจ้างได้ติดต่อเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้โทรยกเลิก และระบุว่า ไม่มีลายนิ้วมือคนร้าย ทั้งๆที่คนร้ายงัดประตูบ้านเข้ามา หยิบจับเปิดตู้เก็บของ เปิดลิ้นชัก ค้นหาทรัพย์สินและถอดปลั๊กโทรศัพท์มือถือของลูกสาว แต่หัวชาร์ตไม่ได้ไป ได้ไปแต่โทรศัพท์มือถือและสายชาร์ต แต่หัวชาร์ตยังอยู่ ซึ่งตนเชื่อว่าหากให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐานอย่างละเอียดจะเจอลายนิ้วมือ และต้องจับคนร้ายได้แล้วแน่นอน ส่วนเสื้อผ้าขณะเกิดเหตุตำรวจนำไปเป็นหลักฐาน แต่ระบุว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 ราย ที่เก็บดีเอ็นเอไปตรวจพิสูจน์ เพื่อเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของคนร้ายที่ทิ้งไว้นั้นไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัย  

พ่อโร่ร้องสื่อ ลูกสาว 17 ปี  ถูกทำอนาจารขณะพ่อแม่ออกกรีดยาง 10 เดือนแล้วคดีไม่คืบ

นอกจากนั้นตำรวจได้ตามยึดโทรศัพท์มือถือของลูกสาวคืนมาได้แล้ว แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ และเวลาผ่านมานานแล้ว นอกจากนั้นหลังเกิดเหตุ พวกตนได้เก็บเอกสารหลักฐานบางอย่างที่ได้จากตำรวจไว้ในรถยนต์กระบะ ยังมีคนร้ายพยายามทุบกระจกด้านหลัง และงัดขอบกระจก แต่เปิดเข้าไปไม่ได้ เชื่อว่าคนร้ายคงหวังจะเอาเอกสารบางอย่างในรถ พอพวกตนไปแจ้งพนักงานสอบสวนคนเดิม พนักงานสอบสวนบอกให้พวกตนนั่งรอ เดี๋ยวไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยกัน แต่สุดท้ายพนักงานสอบสวนไปคนเดียว โดยไม่มีพวกตนเจ้าของรถไปด้วย และมาแจ้งว่ารอยแตกดังกล่าวเกิดจากเศษหินกระเด็นใส่ ซึ่งตนมองแล้วว่าลักษณะของกระจกที่แตกและรอยบริเวณขอบกระจกไม่ใช่เกิดจากเศษหินตกใส่แน่นอน  จึงเห็นตำรวจทำงานตั้งแต่เริ่มต้นแล้วไม่ไว้ใจ ครอบครัวกลัวว่าคดีจะเงียบ ตำรวจจะไม่จับคนร้าย หวั่นมีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยขณะนี้ลูกสาวยังหวาดกลัว ไม่กล้าอยู่ลำพัง นอนต้องให้พ่อแม่กอด เพราะคนร้ายขู่จะกลับมาฆ่าทิ้ง จึงร้องขอความเป็นธรรมขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

พ่อโร่ร้องสื่อ ลูกสาว 17 ปี  ถูกทำอนาจารขณะพ่อแม่ออกกรีดยาง 10 เดือนแล้วคดีไม่คืบ

สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตรัง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ