"ทิพานัน" ยันทุกฝ่ายจริงใจแก้ไขรธน.วอนทุกม็อบทบทวนเดินขบวนกระทบความเชื่อมั่น 

20 ส.ค.2563  น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี และอดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีกลุ่มประชาชนปลดแอกขู่ยกระดับการชุมนุมหากข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบสนองในสัปดาห์หน้าว่า ในส่วนของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศแล้วว่าสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพร้อมให้ความร่วมมือในกลไกต่างๆ  ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์พร้อมรับฟังความคิดเห็น และเสียงเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้เพิกเฉยแต่อย่างใด มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ เมื่อนายกฯพร้อมรับฟัง ฉะนั้นอยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมรับฟังนายกฯด้วย เพราะกระบวนการอยู่ในสภาฯ แล้ว

“ท่านนายกฯ มีความตั้งใจรับฟังและนำมาแก้ไข อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจในอำนาจของ ฝ่ายบริหาร และนิติบัญญัติ ที่จะก้าวล่วงกันไม่ได้   ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จสิ้นส่งข้อสรุปมาแล้ว จากนั้นถึงจะเป็น "ขั้นตอนของรัฐบาล"โดยคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะ "ไม่มีร่างรัฐธรรมนูญของครม.ประกบไป" สะท้อนถึงความจริงใจของรัฐบาลในการไม่ล็อกสเปกรัฐธรรมนูญ  ปล่อยให้เป็นเรื่องของกลไกพรรคการเมือง ซึ่งในส่วนคณะกรรมาธิการก็มีความคืบหน้าไปมาก โดยมีข้อสรุปในการแก้ไขมาตรา 256 และเปิดทางให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่และจะคาดว่าจะมีความชัดเจนในรายละเอียดประมาณปลายเดือนสิงหาคมนี้แล้ว ”น.ส.ทิพานัน กล่าว 

น.ส.ทิพานัน ยังกล่าวด้วยว่า จากการสังเกตการณ์ในฐานะ คณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนนั้น เห็นว่ารูปแบบการชุมนุมของน้องๆเยาวชน ยังอยู่ในที่ตั้งด้วยความสงบเรียบร้อย  ไม่ได้เดินขบวนปิดถนนหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน  แต่อยากให้ทุกม๊อบตระหนักว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่โหมดการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ต้องการฟื้นความเชื่อมั่น ฉะนั้นหากมีการเดินขบวนทั่วประเทศก็จะกระทบต่อภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศเองก็ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ขณะที่ต่างประเทศที่กำลังพิจารณาการลงทุนก็อาจหยุดชะงัก ผลเสียจะตกอยู่กับประชาชนคนไทยที่จะได้รับความเดือดร้อน ซ้ำเติมวิกฤติ ฉะนั้นจึงอยากให้พิจารณาทบทวนรูปแบบการเคลื่อนไหวดังกล่าว 

    
“เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมหากไม่มีใครอยู่เบื้องหลังจริง ก็ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีหัวใจเพื่อมวลชน มีกำลังกายและมีสติปัญญา มีวุฒิภาวะเพียงพอ  ที่จะสามารถพิจารณาเข้าใจสถานการณ์ของประเทศชาติด้วยความสร้างสรรค์พร้อมร่วมมือกันฟื้นฟู เศรษฐกิจไทยให้กลับมาดีขึ้นได้’น.ส.ทิพานัน กล่าว