
ประมวลภาพรัฐมนตรีท้ายแถวพบนักเรียนผูกโบว์ขาวชูสามนิ้วเป่านกหวีดไล่
พรึ่บตามนัด นักเรียนเลว #เลิกเรียนไปกระทรวง ผูกโบว์ขาว ชูสามนิ้ว เป่านกหวีดไล่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถูกไล่ไปต่อท้ายแถว (ประมวลภาพ)
19 สิงหาคม 2563 มากันพรึ่บ #เลิกเรียนไปกระทรวง หลัง นักเรียนเลว @BadStudent_ ทวีตนัดหมายชุมนุม ผูกโบว์ขาว ชูสามนิ้ว เป่านกหวีดไล่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) 16.00 - 19.00 น. โดยนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ เดินทางมาร่วมจำนวนมาก ซึ่งต่างผูกโบว์สีขาวที่ผมและกระเป๋าเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่ตัวแทนกลุ่มได้ขึ้นเวทีปราศรัยต่อต้านกฎระเบียบที่ไม่เป็นธรรมในโรงเรียน อาทิ เรื่องการแต่งกาย ทรงผม เป็นต้น พร้อมเรียกร้องต่อต้านการคุกคามนักเรียนที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในโรงเรียน
อ่านข่าว - มาแล้ว นักเรียนเลว #เลิกเรียนไปกระทรวง ผูกโบว์ขาว ชูสามนิ้ว เป่านกหวีดไล่ รมต. (มีคลิป)
ผู้สื่อข่าวรายงานผ่านไลฟ์สดเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อนายณัฏฐพลได้ออกมาที่ด้านหน้ากระทรวงถึงบริเวณสถานที่จัดกิจกรรม น้องๆ นักเรียนและผู้ที่มาร่วมชุมนุมได้เป่านกหวีดและส่งเสียงตะโกนไล่ "ออกไป" และให้ รมว.ศธ. ที่ขอใช้เครื่องเสียงเพื่อพูดกับนักเรียน แต่แกนนำไม่ยอมและบอกให้ไปต่อแถวด้านหลัง ไม่ยอมให้ลัดคิว
CR : ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ (Tanachai Pramarnpanich)
ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังนายณัฏฐพลนั่งรับฟังปัญหาจากกลุ่มนักเรียน อาทิ เรื่องปฏิรูปการศึกษา การปรับหลักสูตรการเรียนการสอน เรื่องทรงผม เครื่องแบบ อยู่นานประมาณ 30 นาที จากนั้นนายณัฏฐพลจะเดินมาขึ้นเวทีแต่กลุ่มเด็กนักเรียนโห่ร้องไม่ให้ขึ้นพร้อมตะโกนไล่ ชู 3 นิ้ว นายณัฏฐพลจึงเดินกลับเข้ากระทรวงฯ ไป ขณะที่ด้านนอกเด็กนักเรียนได้นำริบบิ้นสีขาวใหญ่ และโบว์สีขาว พร้อมป้ายข้อความต่างๆ มาติดที่ประตูทางเข้าทั้ง 2 ประตู
นายณัฏฐพลให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หลังจากลงไปนั่งจับเข่าคุยก็เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงปัญหา และได้รับฟังความคิดเห็นจากเด็ก เห็นว่าปัญหาที่นักเรียนเรียกร้องส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองมากเท่าไหร่ ดีใจที่เยาวชนแสดงความใส่ใจในอนาคตของประเทศชาติ อนาคตของตัวเอง
ถามว่า ถ้ามีโอกาสได้พูดคุยกับเด็กจะพูดอะไรกับนักเรียน นายณัฏฐพล ระบุว่า อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือของพวกเขา ต้องอยู่กันอีกนาน จึงอยากให้พิจารณาให้ดี สิ่งที่พวกเขาทำแล้วเกิดความไม่มั่นใจในการลงทุน ก็จะอยู่กับอนาคตของพวกเขา การแสดงออกวันนี้ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ เราต้องก้าวข้ามความยั่วยุ ความแตกแยก วิกฤติช่วงนี้ถือว่าหนักหนาสาหัส คนไทยทุกคนต้องจับมือกันก้าวข้ามไปให้ได้
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มเสื้อแดงไม่ใช่นักเรียนมาเป่านกหวีดขับไล่ นายณัฏฐพล บอกว่า ไม่รู้สึกอะไร พร้อมยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง และวันนี้อยากจะก้าวเดินไปข้างหน้า
ส่วนกรณีที่มีการคุกคามการชุมนุมในโรงเรียนของครู นายณัฏฐพล เชื่อว่าหากมีเวทีที่เปิดให้มีการแสดงออก จะเป็นการเปิดการรับฟังความคิดเห็นผ่านกระบวนการกรรมการสถานศึกษา ในการแสดงออกของนักเรียนต้องยึดตามกฎระเบียบของต่างประเทศด้วย ความก้าวร้าว การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องมีการพูดคุยกัน
การแสดงออกของครู หากมีการประกาศชัดเจน มีเวทีที่รับฟัง ก็น่าจะลดความกดดันของครูได้ โดยจะให้ทุกโรงเรียนมัธยมหาทางออก ส่วนจะมีการพูดคุยหรือไม่ขึ้นอยู่กับแกนนำจะรับฟังหรือไม่ นอกจากนี้ นายกฯ กำชับให้ทำด้วยความเข้าใจเปิดกว้างในการรับฟัง
ขณะที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่มาชุมนุมในวันนี้ ยืนยันว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง การออกมาชุมนุมวันนี้ มาเอง เพราะต้องการอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศ การศึกษาที่พัฒนา เวลานี้เศรษฐกิจตกต่ำ เพราะขาดการบริหารที่ดี
นักเรียนชายที่ยื่นนกหวีดให้รัฐมนตรี เปิดใจว่า ที่ต้องการยื่นให้เพราะเป็นการให้รัฐมนตรีได้นึกถึงการขับไล่คนอื่น ส่วนการมาชุมนุมนั้นพ่อแม่ไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ห้ามอะไร เพราะที่บ้านมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน จึงอยากให้คนในสังคมรับฟัง เพราะการหันหน้าพูดคุยกันเป็นทางออกที่ดีของประเทศ ส่วนที่โรงเรียนเปิดเวทีให้ชุมนุมแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
นักเรียนอีกหนึ่งราย ระบุว่า ก็รู้สึกดีที่รัฐมนตรีลงมาจับเข่าคุย ส่วนตัวก็ชื่นชม แต่หากสามารถนำข้อเรียกร้องไปปฏิบัติได้เป็นรูปธรรมก็จะเกิดความชัดเจนมากกว่า การมาชุมนุมวันนี้เป็นการแสดงออกที่อย่ามองว่าพวกเขายังเด็ก และการเมืองไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น หากการเมืองดี การศึกษาดี อนาคตของพวกเขาก็จะได้อยู่อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ยืนยัน ไม่ได้ทำตามกระแสและไม่ใช่แฟชั่น ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง
นักเรียนที่มาชุมนุม ยังยืนยันว่า การมาแสดงออกของกลุ่มนักเรียนที่ชูสามนิ้ว การโห่ไล่รัฐมนตรีให้ไปต่อแถวด้านหลัง ไม่ใช่การชุมนุมที่ก้าวร้าว แม้จะมีการเปิดพื้นที่ให้ชุมนุมในโรงเรียนได้ แต่ก็อยากให้รัฐมนตรีรู้ว่ายังมีการคุกคามจากครู จากอาจารย์ที่สั่งห้ามนักเรียนชุมนุม และใช้อำนาจกดทับ หากไม่แก้ปัญหานี้ การเปิดพื้นที่ในโรงเรียนไม่มีประโยชน์ จึงต้องออกมาแสดงออกและเรียกร้อง