ได้ฤกษ์ ! "หมอวรงค์" นำเปิดตัวกลุ่ม "ไทยภักดี" ยึดมั่นปกป้องสถาบัน

19 ส.ค.63 เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมยู สาทร กรุงเทพ  นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้ากลุ่ม "ไทยภักดี"  แถลงเปิดตัวกลุ่ม "ไทยภักดี" โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งจำนวนมาก จากหลากหลายแวดวง ร่วมในงานเปิดตัว  พร้อมประกาศจุดยืนในการก่อตั้งกลุ่ม "ไทยภักดี"   6 ข้อ ประกอบด้วย 

1. ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
2. เรายึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3. เรายืนยันที่จะพัฒนาประเทศบนพื้นฐานหลักวิถีไทยและสืบสานความเป็นไทย
4. เราเชื่อว่ากลุ่มทุนผูกขาดเป็นปัญหาสำคัญต่อความอยู่ดีกินดี ของพี่น้องประชาชน
5. เราสนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย ของคนทุกกลุ่มรวมทั้งเกษตรเพื่อสนับสนุนการประกอบอาชีพ
6. เราไม่ปฎิเสธการลงทุนจากต่างชาติ ไม่ปฎิเสธทุนใหญ่ แต่ต้องวางรากฐานชาติด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง 

นอกจากนี้ กลุ่ม "ไทยภักดี" ยังได้เสนอข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ดังนี้ 

1. ต้องไม่ยุบสภา เพราะ วิกฤติโควิด19 ที่ยังระบาดหนักทั่วโลก และการแก้ปัญหาผลกระทบด้านเศรษฐกิจยังไม่ลุล่วง ความเสี่ยงต่อการระบาดซ้ำรอบสองในไทยยังมี ขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤติการระบาดอย่างหนัก  ขณะที่ผลกระทบจากการหดตัวและล่มสลายทางเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ยังถือเป็นเรื่องใหญ่ การทำธุรกรรมและสภาพคล่องในระบบไม่อาจกลับมาเป็นปกติ ปัญหากับดักหนี้ ทั้งธุรกิจรายใหญ่ รายย่อย คนตกงานเพิ่มขึ้นจากหลักแสน เป็นล้าน การพึ่งพิงการท่องเที่ยวที่เป็นสัดส่วนหลักของจีดีพีประเทศไม่อาจทำได้ แนวทางการแก้ปัญหาที่ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์มาเน้นความเข้มแข็งของการพึ่งพาตนเองตั้งแต่ระดับฐานราก จนถึงความมั่นคงของโลกาภิวัฒน์แบบภูมิภาค สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องมีความต่อเนื่องของรัฐบาลและนโยบายต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ ได้มีผลงานบริหารจัดการวิกฤติโควิดในประเทสจนเป็นที่ประจักษ์ว่าประเทสไทยเป็นประเทศที่ติดอันดับ 1 ของประเทศที่ฟื้นตัวดีที่สุดในโลก 

2. ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม กับกลุ่มบุคคลทุกอายุ ทุกกลุ่มที่เสนอการแก้ไขปัญหาว่าด้วยสถาบันกษัตริย์อันไม่ชอบด้วยหลักการคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ในรัฐะรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งแกนนำ ผู้ปราศรัย กลุ่มอาจารย์ กลุ่มการเมือง เพื่อคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและการใช้เสรีภาพที่ไม่ก้าวล่วงขอบเขตใดๆตามอำเภอใจ 

3.ต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญ 2560  โดยปราศจากฉันทามติของประชาชนที่ลงประชามติไปแล้ว เพราะถือเป็นรัฐธรรมนูญที่เสริมสร้างกระบวนการประชาธิปไตยมากที่สุด