เพื่อนสนิทเผยชนวนเหตุชู 3 นิ้ว ทำแฟนคลับ "ลุงตู่" เครียดยิงตัวดับ

 

จากกรณีนายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ซอยแสนสุข ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งป่วยโรคซึมเศร้า ได้เขียนจมหมายถึงนายกฯประยุทธ์ ฝากดูแลครอบครัว ก่อนใช้อาวุธปืน .38 ยิงขมับตัวเองเสียชีวิตคาห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 05.00 น.ของวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา

 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุก็พบกับ นายอุกฤษ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผู้ตาย พร้อมญาติและเพื่อนบ้านที่กำลังจัดเตรียมงานศพ

 

 

 

จากการสอบถามทราบว่า นายประสิทธิ์ ผู้ตายเป็นคนมีฐานะดี หนี้สินที่ระบุในจดหมายมีเพียงแค่หมื่นกว่าบาท เป็นค่าสินค้าเท่านั้น โดยครอบครัวอาศัยอยู่กัน 4 คน พ่อ แม่ ลูกชายคนโตอายุ 27 ปี และลูกสาวคนเล็กอายุ 23 ปี ซึ่งลูกทั้งสองคนได้จบปริญญาตรีเรียบร้อย เดิมทีครอบครัวได้เปิดร้านขายของชำอยู่แล้ว เมื่อลูกชายเรียนจบกลับมาอยู่บ้านไม่อยากไปทำงานที่อื่นจึงได้มาเปิดร้านขายของชำเพิ่มอีก 1 ร้าน อยู่ห่างจากบ้านเดิมที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร โดยพี่ชายคนโตเป็นคนดูแลร้านใหม่ ส่วนร้านเดิมให้น้องสาวเป็นคนดูแลร่วมกับพ่อและแม่

 

 

นอกจากนี้นายประสิทธิ์ (ผู้ตาย) ยังมีบ้านเช่าให้อีกจำนวน 8 หลัง และมีที่ดินอีกหลายแปลง จัดเป็นคนที่มีฐานะดีคนหนึ่งในพื้นที่อำเภอขนอม

 

 

"ส่วนเรื่องที่ระบุว่าฝากครอบครัวให้นายกฯประยุทธ์ดูแลนั้น ทราบว่าผู้ตายเป็นแฟนคลับของนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนั่งดูข่าวนายกฯประยุทธ์ทางทีวีตลอด และจะคอยเป็นห่วงนายกฯประยุทธ์เมื่อมีกระแสข่าวหรือปัญหาต่างๆอยู่เสมอ เข้าใจว่าข้อความ "ฝากนายกฯประยุทธ์ดูแลครอบครัว" ที่ระบุในจดหมาย น่าจะเป็นการฝากให้นายกฯประยุทธ์ใช้เวลาในการดูแลครอบครัวของตัวนายกฯประยุทธ์เองบ้าง เพราะทำงานหนัก เหนื่อยมากจนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัวตัวเอง"

 

 

 

ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายอุกฤษ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนโต เปิดเผยว่า คุณพ่อป่วยลิ้นหัวใจรั่วและเป็นโรคซึมเศร้า ก่อนที่เกิดเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น คุณพ่อจะบ่นให้ฟังเป็นประจำเรื่องที่ดิน เพราะก่อนหน้านี้คุณพ่อได้ดำเนินการเกี่ยวกับการขอออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งที่ดินแปลงนี้ที่อาศัยอยู่พร้อมกับชาวบ้านจำนวน 108 ราย บนพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 70 ไร่ ที่ดินยังไม่มีเอกสารสิทธิ์และไม่ได้ออกเอกสารสิทธิ์ แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ป่าสงวน โดยคุณพ่อได้รวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดยื่นให้กรมป่าไม้เป็นหลักฐานแล้ว

 

 

ในขณะที่ นายสมิง สังฉิม อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย และมีบ้านอยู่ใกล้กัน เล่าว่า ผู้ตายได้เขียนระบุไว้ก่อนจะยิงตัวตายว่า "งานศพให้นายสมิงเป็นคนดูแลทั้งหมด และให้ไว้ศพคืนเดียว" นั้น นายประสิทธิ์เป็นคนที่จริงจังกับชีวิตมาก และเป็นแฟนคลับของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยในแต่ละวันนายประสิทธิ์จะนั่งดูข่าวการเมืองทุกวันและจะคอยให้กำลังใจ บนบานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองช่วยเหลือนายกประยุทธ์อย่างต่อเนื่อง

 

 

"แต่ช่วงหลังมาเครียดเรื่องที่มีนักเรียน นักศึกษา รวมตัวกันประท้วงนายกฯประยุทธ์และรัฐบาล นายประสิทธิ์ยังพูดให้ตนฟังอีกว่าโชคดีที่ลูกทั้งสองคนของตนเรียนจบมาแล้ว ไม่ต้องไปยืนชู 3 นิ้วไล่นายกฯประยุทธ์และรัฐบาลร่วมกับนักเรียน นักศึกษาในปัจจุบัน ประเด็นนี้อาจจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้นายประสิทธิ์ตัดสินใจยิงตัวตายด้วย"

 

 

ส่วนในเรื่องส่วนตัวนั้น ตนและนายประสิทธิ์เป็นตัวแทนชาวบ้านในการวิ่งเต้นในเรื่องการขอออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ 70 ไร่ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นชุมชนริมคลองขนอม ไม่ได้เป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ แต่กลับไม่มีเอกสารใดๆทั้งสิ้น นายประสิทธิ์จึงเป็นห่วงเรื่องนี้มาก อยากให้มีการออกเอกสารสิทธิ์เพื่อที่ชาวบ้านทั้งหมด 108 ครอบครัวจะได้มีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้อง ส่วนเรื่องเศรษฐกิจนั้นเชื่อว่าไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ยิงตัวตาย เพราะเรื่องนี้นายประสิทธิ์เป็นคนที่มีฐานะดีมาก และไม่มีหนี้สิน เป็นขยันทำงาน

 

อย่างไรก็เรื่องการจัดการงานศพตนไม่ทำตามที่นายประสิทธิ์ได้สั่งเสียไว้ตามที่ระบุในจดหมาย เนื่องจากต้องการให้ญาติพี่น้อง พรรคพวกเพื่อนฝูงได้มาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ และร่วมทำบุญอุทิศกุศลให้กับนายประสิทธิ์ ซึ่งจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลศพ 5 คืน ก่อนจะทำการฌาปนกิจศพต่อไป

 

ข่าวโดย ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช