ข่าว

"ตร.ต้องเป็นเหมือนไปรษณีย์"แนวทาง...พล.ต.ท.วีรยุทธ สิทธิมาลิก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หากทบทวนคดีอาชญากรรมร้ายแรงต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความมั่นคงของชาติ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าอาชญากรรมที่ปลายด้ามขวานไทยเข้าขั้นแดนสนธยา มีทั้งคดีอุกฉกรรจ์ อาวุธสงคราม อบายมุข

บ่อนการพนัน สถานบริการ ตลอดจนปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ งานเหล่านี้กำลังจะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือแม่ทัพคนใหม่แห่งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งต้องรับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยของพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

 สบายๆ สไตล์สีกากีฉบับนี้มาทำความรู้จักกับแม่ทัพตำรวจชายภาคใต้ พล.ต.ท.วีรยุทธ สิทธิมาลิก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ถึงนโยบายการทำงานแบบมืออาชีพ โดยยึดแนวทางตามนโยบายของรัฐบาลด้วยการการแก้ไขปัญหายาเสพติด !

 พล.ต.ท.วีรยุทธ มองว่า ปัญหายาเสพติดเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาอาชญากรรม สร้างผลกระทบต่อทุกเพศทุกวัยไปจนถึงสถาบันครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันหลักในการช่วยจรรโลงสังคมให้มีความสงบเรียบร้อย เมื่อใดที่ยาเสพติดให้โทษแทรกซึมสู่สถาบันครอบครัว จะก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ตามมาอย่างไม่สิ้นสุด จึงต้องให้ความสำคัญต่อปัญหายาเสพติดเป็นพิเศษ เมื่อปัญหายาเสพติดหมดไปสังคมจะดีขึ้น

 นอกจากแก้ปัญหายาเสพติดแล้ว พล.ต.ท.วีรยุทธ ยังให้ความสำคัญกับการปราบปรามกลุ่มมือปืนรับจ้างในพื้นที่ ต้นตอสำคัญของการก่ออาชญากรรมในพื้นที่ และการสืบสวนคดีฆาตกรรมที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่ากลุ่มมือปืนใน จ.พัทลุง ตรัง และสงขลา มีความเชื่อมโยงกัน

 "ตอนนี้มือปืนที่อาละวาดอยู่ในพื้นที่ก่อคดีใน จ.พัทลุง กับสงขลา เราจับกุมได้ 3 คน การจับกุมได้ค่อนข้างจะรวดเร็วและทันที ขณะนี้สามารถออกหมายจับได้อีกลุ่มหนึ่ง จึงมั่นใจว่าถ้าทำแบบมืออาชีพสามารถเอาอยู่ แต่ต้องทำกันจริงๆ เกาะติดกันจริงๆ" พล.ต.ท.วีรยุทธ กล่าว

 สำหรับวิธีที่ยุติการกระทำของกลุ่มมือปืนนอกกฎหมาย ผบช.ภ.9 ย้ำว่าถ้ารู้ว่าคนไหนทำผิดต้องจับกุมให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้คนทำผิดเกิดความฮึกเหิม ก่อคดีโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ต่อนี้ไปอาชญากรคงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะตำรวจจะทำงานแบบมืออาชีพ ไม่ปล่อยคดีให้ล่วงเลยนานๆ และจะเกาะติดชนิดกัดไม่ปล่อย

 "ผมจะให้สายสืบเข้าไปตรวจสอบในบ้านของผู้ต้องหาที่มีหมายจับวันละ 3 หมาย ในภูมิลำเนาของเขาแล้วทำรายงานขึ้นมา ส่วนสายตรวจจะต้องตรวจแบบมีเป้าหมาย ไม่ใช่สักแต่ว่าตรวจ แต่ต้องเข้าไปที่บ้านแต่ละหลังเหมือนบุรุษไปรษณีย์ เขาจะรู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นของใคร อยู่กันกี่คน มีพฤติกรรมน่าสงสัยหรือไม่ นอกจากนี้ยังทำทะเบียนคู่ขัดแย้งในแต่ละท้องที่ เพื่อจับตามองคู่ขัดแย้งเหล่านั้น ด้วยการประสานกับนายอำเภอนัดคู่ขัดแย้งมาคุยกัน อย่างน้อยเขาก็จะได้รู้ว่าเราจับตามมองเขาอยู่ ทำอะไรก็จะได้ยั้งคิดกันบ้าง แล้วให้ทางราชการเป็นคนแก้ปัญหาดีกว่า"

 การทำงานแบบมืออาชีพตามสไตล์ของ พล.ต.ท.วีรยุทธ จะไม่ใช้วิธีการสั่งการ แต่จะเป็นการชวนกันทำงาน ลูกน้องทำต้องทำด้วย ยิ่งมีตำแหน่งสูงๆ ยิ่งต้องทำงานมากกว่าลูกน้อง หากปล่อยให้ลูกน้องทำงานอย่างเดียวอาจจะไม่ได้รับความร่วมมือที่ดี โดยให้ลูกน้องยึด 3 หลักทำงานเป็นมืออาชีพ ต้องเป็นตำรวจใจดี ต้องรักและห่วงใยกัน ตำรวจทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นสายตรวจ สายสืบ พนักงานสอบสวน จราจร แม้กระทั่งคนที่ให้บริการอยู่บนโรงพัก ต้องทำงานอย่างมืออาชีพ โดยยึดรูปแบบการทำงานของเอกชนมาเปรียบเทียบการทำงานด้วย

 เมื่อตำรวจทำงานแบบมืออาชีพกวดขันจริงจัง ปัญหาอาชญากรรมทั่วๆ ไปทั้งอบายมุข บ่อนการพนัน การค้าประเวณี ตลอดจนขบวนการค้ามนุษย์ตามชายแดน ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นที่จะป้องกันปราบปรามให้สัมฤทธิผล โดยเฉพาะการทำงานที่ประสานกับนโยบายของรัฐบาลเฉกเช่นทุกวันนี้ ประชาชนในพื้นที่เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ เริ่มหันมาสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะชาวบ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

 ผบช.ภ.9 วิเคราะห์เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า มีไม่กี่พื้นที่เท่านั้นที่เกิดเหตุบ่อยๆ เช่น ยะลา พื้นที่เกิดเหตุบ่อยจะมี อ.บันนังสตา ยะหา และกรงปินัง นานๆ ครั้งถึงจะมาก่อเหตุใน อ.เมือง ฉะนั้นข้อเท็จจริงแล้วระเบิดที่เกิดขึ้นในเมืองไม่น่าจะใช่ฝีมือของผู้ก่อการร้าย แต่เป็นการแอบแฝงเข้ามาก่อเหตุ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ดูน่ากลัวเพื่อสร้างผลทางด้านจิตวิทยา ด้าน จ.ปัตตานี ก็มีไม่กี่พื้นที่ เช่น อ.ทุ่งยางแดง กะพ้อ และสายบุรี เป็นต้น คาดว่ามีไม่เกิน 5 อำเภอ ทั้งนี้ผลจากการทำงานของทุกๆ ฝ่ายกำลังทำให้พื้นที่สีแดงแคบลง และมั่นใจว่าจะไม่ขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ แน่นอน

 "ในพื้นที่ภาค 9 จะมี 4 อำเภอที่มีพื้นที่ติดกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น อ.สะบ้าย้อย เทพา นาทวี และจะนะ ตรงนี้เราก็ใช้นโยบายและวิธีการปฏิบัติงานเช่นเดียวกันกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เน้นเรื่องการทำความเข้าใจ เน้นเรื่องจิตวิทยามวลชน มั่นใจว่าจะเป็นเกราะป้องกัน เสมือนกำแพงก่อนที่ปัญหาต่างๆ จะเข้ามาถึง อ.หาดใหญ่ และ อ.เมือง จ.สงขลา โดยเราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประชาชน และเจ้าหน้าที่หลายๆ หน่วย ทั้งทหารพราน ทหารหลัก และ ตชด." พล.ต.ท.วีรยุทธ บอกถึงยุทธวิธีสร้างแนวกันชนป้องกันปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่ และเร็วๆ นี้ กำลังจะมีเรือเหาะตรวจการณ์มาช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่รัฐในเวลากลางค่ำกลางคืนอีกแรงด้วย

 สมชาย สามารถ : เรื่อง
 สันติภาพ รามสูต : ภาพ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ