ข่าว

"วิชา" ประสาน ก.ยุติธรรม ดูแลความปลอดภัย "พ.ต.อ.ธนสิทธิ์"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วิชา" ระบุสอบ "พ.ต.อ.ธนสิทธิ์" ยังยืนยันให้ข้อมูลพนักงานสอบสวนครั้งเดียว หลังให้ความเห็นทบทวนวิธีการคำนวณ แจ้งขอเปลี่ยนแต่ไม่ได้รับความสนใจ เผยเจ้าตัวหวั่นกลัว-ถูกติดตาม ประสาน ก.ยุติธรรมดูแลความปลอดภัย เผยเรียก "สมยศ" ชี้แจง 20 ส.ค.นี้

 

วันที่ 18 สิงหาคม 2563 ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถนนพระอาทิตย์ นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน​ เปิดเผยภายหลังสอบข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 ตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดี บอส อยู่วิทยา ว่า

 

พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ถือเป็นพยานที่มีน้ำหนักทำให้อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ จาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพียงครั้งเดียว คือวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 และยืนยันว่าไม่ได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานสอบสวนในวันที่ 2 มีนาคม ตามที่ถูกกล่าวอ้าง

 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ไม่ได้ให้ถ้อยคำไว้ตรงๆ แต่บอกว่าคนที่พา รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม มาคืออดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าทาง รศ.ดร.สายประสิทธิ์ มาได้อย่างไร แต่รับทราบข้อมูลว่าเคยช่วยคำนวณในคดีของเสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ซึ่งก็น่าเชื่อถือเหมือนกัน เพราะเคยทำการพิสูจน์ความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ แต่เนื่องจากว่าเร็วมากถูกกดดันทั้งวัน ถ้าหากมีเวลาทบทวนมันจะดีกว่านี้

 

 

พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ บอกอีกว่า ถึงจะให้ความเห็นไปแล้ว เขาได้ไปใช้เวลาทบทวนกับคณะทีมงาน ก็เห็นว่าทาง รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ที่ได้คำนวณไว้น่าจะไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นจึงได้มาบอกผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานว่าขอเปลี่ยนคำให้การ ซึ่งได้โทรศัพท์ไปหาพันตำรวจเอกวิรดลในทันที เพื่อขอเปลี่ยนแต่ทางพันตำรวจเอกวิรดลขณะนั้นไม่ได้สนใจ เนื่องจากกำลังถูกตรวจสอบอีกคดีหนึ่งอยู่ จึงไม่เป็นอันทำอะไร จึงบอกไปว่าจบแล้ว ทั้งที่จริงแล้ว ยังไม่จบ จนถึงขณะนี้ทางพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ยังยืนยันว่า ความเห็นที่ให้ไว้ตั้งแต่แรกนั้นถูกต้องแล้ว

 

นายวิชา กล่าวอีกว่า เรื่องที่ผิดปกติทาง พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ บอกว่า หวั่นกลัวมาก เพราะถูกติดตาม ทั้งนี้ตนได้ระวังและได้ประสานไปยังกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทางปลัดกระทรวงยุติธรรม มาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยอยู่

 

\"วิชา\" ประสาน ก.ยุติธรรม ดูแลความปลอดภัย \"พ.ต.อ.ธนสิทธิ์\"

 

นายวิชา กล่าวถึงการให้ข้อมูลของ พลตำรวจโทเพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้ชี้แจงว่า เมื่อมีการมอบหมายงานแล้วจะมีการมอบขาด จะไม่มีการรายงานไปยัง ก.ตร. หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนเหตุที่ไม่แย้งอัยการ เนื่องจากไม่มีข้อมูลอันผิดปกติ ตนจึงถามไปว่าหากรู้ข้อมูลมาก่อนว่าเขาถูกกดดันและให้ข้อมูลซึ่งผิด ทางพลตำรวจโทเพิ่มพูน บอกว่า ก็เพิ่งทราบเช่นกัน หลังจากที่ผมได้ให้ข้อมูลกับสื่อว่าวันที่ 2 มีนาคม 2559 เป็นการเมคตัวเลข พลตำรวจโทเพิ่มพูนยืนยันว่าหากรู้ตั้งแต่แรก ยืนยันว่าไม่ยอมแน่นอน จะแก้ไข และคงแย้งไป

 

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ทราบเรื่องแล้วก็ได้รายงานไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังทราบข้อมูลในวันที่ไปชี้แจงพร้อมกับพันตำรวจเอกธนสิทธิและได้คุยกับพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ว่าทำไมถึงไปเปลี่ยนหรือกลับถ้อยคำโดยที่ไม่มีเหตุผลและไม่ยึดหลัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะต้องพิจารณาการทำงานของตำรวจต่อไป รวมถึงพิจารณาว่าสมควรที่จะแก้ไขอะไรอย่างไร

 

 

"อย่างที่บอกว่าเรารู้กันดีอยู่ว่ามีอะไรที่ผิดปกติ เป็นสิ่งที่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา แม้จะมองว่าเป็นคดีรถชนกันมีคนตาย ประมาท ในรูปคดีเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่จริงๆแล้วมันไม่ปกติ ก็สมแล้วที่ทางนายกรัฐมนตรีจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง" นายวิชา กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม จะตรวจสอบว่าในการทำสำนวน จะต้องมีใครเกี่ยวข้องและรับผิดชอบ ส่วนข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบทั้งหมด พันตำรวจเอกวิรดล ทับทิมดี เหมือนจะรับผิดคนเดียวใช่หรือไม่ นายวิชา ระบุ อยู่ในกระบวนการ แต่ไม่เปิดเผยว่ามีบุคคลใดบ้าง นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมไปดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

ทั้งนี้นายวิชา ยังชี้แจงต่อข้อวิจารณ์ในโซเชียลที่มองว่าคณะกรรมการชุดนี้เป็นขบวนการสอบเพื่อช่วยกันว่าหากสอบแล้วช่วยกัน ตนจะออกมาบอกหรือว่ามีอะไรที่ผิดปกติ ตนเองจะออกมาเปิดเผยข้อมูลพิรุธและบอกว่ามันผิดปกติทำไม มีหรือไม่ที่ตนบอกว่าไม่มีผิดปกติเลย

 

ภายหลังการให้ถ้อยคำแล้ว ทางที่ประชุมจึงมีมติให้เชิญ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. เข้ามาพบคณะกรรมการในวันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม 2563 เวลา 13.30 น. นอกจากนั้นก็จะเชิญอัยการสูงสุดเข้ามาให้ข้อมูลเช่นกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์

 

ทั้งนี้คณะทำงานตรวจสอบฝ่ายตำรวจจะทำการตรวจสอบเป็นชุดๆ ไป ซึ่งจะเชิญผู้บังคับการและอดีตผู้บังคับการกองต่างประเทศ ที่เกี่ยวกับเรื่องของการออกหมายแดงของอินเตอร์โพล เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน มาให้ข้อมูลในช่วงเช้าของวันที่ 20 สิงหาคมนี้ และได้เชิญตำรวจเชียงใหม่ ผู้บังคับการตำรวจที่ดูแลเรื่องการไต่สวนชันสูตรพลิกศพนายจารุชาติ มาดทอง มาให้ถ้อยคำ เพื่อสรุปอีกครั้งหนึ่ง

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ