ข่าว

ตำนานแผ่นดิน-เฉวียนโจวเส้นทางสายไหมทางทะเล

ตำนานแผ่นดิน-เฉวียนโจวเส้นทางสายไหมทางทะเล

08 ม.ค. 2553

พูดถึงเส้นทางสายไหมของจีน ต้องนึกถึงการเดินทางผ่านทะเลทรายกว้างใหญ่ ใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนชาวมุสลิมตลอดการเดินทาง แต่ความจริงแล้ว เส้นทางสายไหมทางทะเล เกิดขึ้นก่อนทางบกถึงพันปี

 เส้นทางสายไหมทางทะเล เริ่มต้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ซ้ง เดินทางจากเมืองกวางเจา แล่นเรือไปทางทะเลจีนใต้ผ่านช่องแคบมะละกา (มาเลเซีย) เมืองมะละกาที่ผมเคยไปเที่ยว จึงเป็นเมืองที่มีชุมชนชาวจีนอยู่อย่างหนาแน่น และเป็นชาวจีนนักธุรกิจชั้นนำของมาเลเซียในปัจจุบันนี้ แล้วยังให้กำเนิดอาหารอร่อยคือ บะกุดเต๋ (ไป่กุ๊กแต้)

 จากนั้นเรือจะเดินทางไปศรีลังกา อินเดีย และแอฟริกาตะวันออก นักเดินเรือที่มีชื่อเสียงของจีนในยุคนั้นคือ เจิ้งเหอ ได้รับพระบัญชาจากจักรพรรดิให้นำกองเรือออกไปสำรวจโลกทางทะเล จนไปค้นพบทวีปอเมริกาเป็นคนแรก (ทางการจีนเชื่อเช่นนั้น) เจิ้งเหอเดินเรือไปยังหลายประเทศทั่วโลก จนชาวจีนขนานนามท่านว่า ซำปอกง

 เมืองท่าสำคัญที่เป็นต้นกำเนิด เส้นทางสายไหมทางทะเล คือ เมืองเฉวียนโจว เป็นท่าเรือที่เชื่อมการค้าทางทะเลกับดินแดนเปอร์เซีย มีการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าเครื่องเทศ กับเครื่องเคลือบและผ้าไหมที่มีชื่อเสียงของจีน ทำให้มีชาวจีนนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นลูกหลานของชาวเปอร์เซียอยู่เป็นชุมชนใหญ่ มีมัสยิดและตลาดการค้าแบบมุสลิม

 เมื่อครั้งที่ มาร์โคโปโล เดินทางมาบุกเบิกค้าขายที่แผ่นดินจีน ได้นำเรือมาจอดที่ท่าเมืองเฉวียนโจว แล้วนำเครื่องเทศ ผ้าไหม เครื่องถ้วยชามและอาหารจีน กลับไปเผยแพร่ที่เมืองเวนิส ทำให้ชาวอิตาลีรู้จักวิธีการทำเส้นบะหมี่ หรือ สปาเกตตี และเกี๊ยว หรือ ราวิโอลี่ กินกันมาจนถึงทุกวันนี้

 เฉวียนโจว ยังเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ จักรพรรดิราชวงศ์ซ้งใช้เงินท้องพระคลังจำนวนมหาศาล สร้าง วัดไค้หยวน ให้เป็นวัดขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 7.8 หมื่นตารางเมตร มีพระอุโบสถใหญ่ที่มีเสาหินขนาดมหึมา 86 ต้น พระประธานคือ พระพุทธศากยมุนี 5 องค์ ประจำ 5 ทิศ และมีเจดีย์สำคัญคือ เจดีย์เจิ้นกั๋ว และเจดีย์เหยินโซ่ว ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเฉวียนโจว

อาหารแต้จิ๋ว 18 อรหันต์ บัวลอยสี่ไส้

 ตรุษจีนปีนี้ ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ เป็นปีที่คนทั้งโลกต้องสู้เพื่อความอยู่รอด และขอพึ่งบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยปัดเป่าปัญหาให้หมดสิ้นไป ผมจึงชวนไปไหว้ ตั่วเล่าเอี้ย (เจ้าพ่อเสือ) ที่วัดหยวนซัน เขาเฮียงบู๊ซัว จากนั้นไปไหว้หลวงปู่ไต่ฮงกง ผู้ให้กำเนิดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เมืองแต้จิ๋ว ปีนี้ผมจะพาไปไหว้ไต่ฮงกง ที่ศาลเก่าแก่ในหมู่บ้านแต้จิ๋วด้วยครับ

 ไหว้เจ้าแม่กวนอิม 4 หน้า ที่วัดหน่ำโผว่ท้อ เมืองเซี่ยเหมิน ไหว้เจ้าแม่ทับทิม (ไฮ้ตังม่า) ที่เมืองฮกเกี้ยน แล้วพานั่งสามล้อถีบชมเมืองโบราณ ถนนบ้านจอหงวน เสร็จแล้วไปกิน บัวลอยสี่ไส้แต้จิ๋ว ขนมหวานต้นกำเนิด เต้าทึง เมืองไทย ใส่แป๊ะก๊วย ลูกบัว เห็ดหูหนูขาว และบัวลอย 4 ไส้ คือ โอวนี้ (เผือกกวน) ถั่วเค็ม งาดำบด ถั่วแดงบด อร่อยเต็มอิ่ม

 อาหารแต้จิ้ว 18 อรหันต์ เริ่มตั้งแต่ เกี๊ยมฉ่าย โอวน่ำ (หนำเลี้ยบ) กาน้าฉ่าย ซีเช็กฉ่าย ห่านพะโล้ซัวเถา (ไซเถ่าง้อ) ปลากระบอกนึ่งซีอิ๊ว กุ้งผัดพริกเกลือ ที่ภัตตาคารจีนในเมืองไทย ลอกตำรามาทำขาย ฉ๋าก๋วยเตี๋ยว(ก๋วยเตี๋ยวผัดแต้จิ๋ว) ขนมกุยช่าย ฮกก๊วยไส้เผือก ขนมมงคลกินแก้เคล็ดตามหลักฮวงจุ้ย ขนมหวานเป็นเผือก-มัน เชื่อมตำรับแต้จิ๋วที่ไม่หวานมาก แต่เนื้อเผือก-มันนุ่มอร่อย และ โอวนี้ (เผือกกวน) ยัดไส้ฟักทอง ที่มีให้กินเฉพาะที่เมืองแต้จิ๋วเท่านั้น

 เพื่อให้ได้กินอาหารชั้นเลิศของเมืองซัวเถา ผมจะพาไปกินกุ้งมังกรผัดหมี่ฮกเกี้ยน ที่ภัตตาคารนิวพลัมการ์เดนท์ ร้านอาหารสุดหรูในเมืองซัวเถา ที่มีกับข้าวอาหารซีฟู้ดให้เลือกกว่า 300 เมนู ถ้ายังมีปูขนผมจะสั่งให้กินปูขนกันทุกคน แล้วชิม กุ้ยหัวหวี (ปลากล้วยไม้) นึ่งซีอิ๊ว เนื้อปลาเนียนนุ่มอร่อยกว่าปลากะพงหรือปลาเก๋า

 ผมจะพาไหว้เจ้าพ่อเสือ (ตั่วเล่าเอี้ย) ขอบารมีคุ้มครองในปีขาล ชมบ้านเกิดหลวงปู่ไต่ฮงกง ชมบ้านตระกูลหวั่งหลีใหญ่โตสุดอลังการ เที่ยวเกาะเปียโนที่เซียะเหมิน ชิมอาหารอร่อยทุกมื้อ เดินทางวันที่ 9-13 มีนาคม 53 จองด่วน โทร.08-7504-8141

อ.ไชยแสง กิระชัยนิช