ข่าว

สิงคโปร์บอกประชาชน ความจริงอันเจ็บปวด ไม่มีทางกลับสู่เศรษฐกิจก่อนยุคโควิด-19

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เศรษฐกิจสิงคโปร์ครึ่งปีแรก หดตัว 6.7% รัฐบาลอธิบายประชาชนโลกเปลี่ยนแบบไม่หวนกลับสู่ยุคก่อนโควิด-19 อย่างไรบ้าง ต้องเดินหน้าสู่วิถีใหม่สร้างเศรษฐกิจใหม่ตั้งแต่บัดนี้ 


ชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของสิงคโปร์ แถลงวันนี้(11 ส.ค.)ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์หดตัว 6.7% ในช่วงครึ่งแรกของปี ขณะคาดว่าทั้งปีจะหดตัวราว 5-7% พร้อมระบุว่า ความจริงอันเจ็บปวดก็คือประเทศจะไม่มีวันกลับไปอยู่ในโลกยุคก่อนโควิด-19 อีก การแพร่ระบาดเป็นระลอกและการหยุดชะงัก (disruption) หมายความว่าการฟื้นตัวจะต้องใช้เวลา และจะฟื้นตัวแบบไม่เท่ากัน บางภาคส่วนจะฟื้นตัวอย่างก้าวหน้า ขณะบางส่วนจะเปลี่ยนแปลงถาวร 

รัฐมนตรีเศรษฐกิจสิงคโปร์ กล่าวว่า วิกฤติคราวนี้ไม่เหมือนกับวิกฤติการเงินเอเชีย 2541 หรือวิกฤติการเงินโลก 2552 ถ้าหากทำแค่รอให้โควิดผ่านพ้นไป จะแย่หนักกว่าตอนนี้ ดังนั้น สิงคโปร์จะต้องเริ่มสร้างเศรษฐกิจใหม่ สร้างโอกาสงานที่ดีกว่าเดิมสำหรับประชาชน พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีสิงคโปร์ชี้ว่าโลกเปลี่ยนไปอย่างคืนกลับไม่ได้ 4 อย่าง 

 

อันดับแรก สภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่เอื้อต่อความเจริญก้าวหน้าของสิงคโปร์ตลอด 50 ปี เปลี่ยนไปแล้ว การแข่งขันและความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจ ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่กระทบการค้า เทคโนโลยี และความมั่นคง ยกตัวอย่างเช่นแพลตฟอร์มส่งข้อความ เมื่อชาวสิงคโปร์ทำธุรกิจกับจีน จะสื่อสารกับคู่ค้าผ่าน WeChat แต่กับสหรัฐ จะต้องสื่อสารผ่าน WhatsApp  ความขัดแย้งเช่นนี้ไม่อาจเลี่ยงได้ในโลกยุ่งเหยิงกว่าเดิม แต่สิงคโปร์จะต้องหลีกเลี่ยงติดอยู่กลางความขัดแย้งมหาอำนาจ หรือชะงักอยู่ในมาตรฐานเทคโนโลยีและความสัมพันธ์การค้าในโลกแยกส่วน 

อันดับ 2  บริษัททั่วโลกกำลังปรับรื้อองค์กรใหม่ในแง่ห่วงโซ่การผลิตและอุปทาน ทบทวนความจำเป็นของการมีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาค และโรงงานควรตั้งอยู่ที่ใด หลายรายปรับจากการมุ่งเรื่องประสิทธิผล ไปที่การฟื้นตัว หรือเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน บริษัทเหล่านั้นต้องการความหลากหลาย เพื่อจะได้ไม่พึ่งพาที่ใดที่เดียว สำหรับผู้ผลิตบางรายหมายถึง การมองไปที่จีนพ่วงยุทธศาสตร์เล็งปักหมุดอาเซียน ซึ่งก็หมายถึง อาจมีนักลงทุนรายใหม่มาที่สิงคโปร์ ส่วนที่อยู่ที่นี่อยู่แล้ว อาจแตกแขนงไปประเทศอื่น 

อย่างที่ 3 รูปแบบการทำงานที่ปลี่ยนไป การทำงานโดยไม่ต้องประจำในออฟฟิศ หมายความว่าคนในประเทศอื่นๆก็สามารถทำงานที่ชาวสิงคโปร์ทำอยู่จากบ้านได้ การเปลี่ยนแปลงนี้จะกระทบกับช่างเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญสายวิชาชีพ  ผู้จัดการและผู้บริหาร( PMETs)  เพราะงานสามารถทำจากที่ไหนก็ได้หรือผ่านระบบอัตโนมัติหรือปัญญาประดิษฐ์  

การเปลี่ยนแปลงอย่างที่ 4  ส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจที่หดตัวลง อาจก่อความระหองระแหงทางสังคมมากขึ้น ระหว่างคนรวยคนจน ระหว่างต่างชาติกับคนในพื้นที่ หรือแม้แต่ระหว่างพลเมืองสิงคโปร์ กับผู้พำนักถาวร รัฐมนตรีเศรษฐกิจสิงคโปร์ขอให้ประชาชนอย่าโดดเดี่ยวตัวเองจากภายนอก เพราะหากไม่มีโลกเป็นตลาด  พื้นที่เศรษฐกิจของสิงคโปร์จะหดลง โอกาสสำหรับประชาชนก็จะจำกัดแทนที่จะขยายออกไป คนที่งานและธุรกิจกระทบ ควรได้รับการดูแลอย่างยั่งยืน และเพิ่มความแข็งแกร่งสายใยในสังคม  สิ่งที่จะต้องทำก็คือ วางแผนสู่ทิศทางใหม่พร้อมรับอนาคตที่ต่างออกไปมากและไม่แน่นอน

 

ที่มา StraitsTimes 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ