ดอกมะลิราคาพุ่ง กก.ละ 800 ชาวยโสธรหันมาใช้ดอกพุดร้อยมาลัยแทน

วันที่ 11 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวสวนดอกมะลิที่บ้านกว้าง ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ต้องเร่งเก็บดอกพุดที่ปลูกเอาไว้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับดอกมะลิไปร้อยเป็นมาลัยกร เพื่อส่งจำหน่ายให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า หลังจากที่ในช่วงนี้เป็นช่วงสัปดาห์วันแม่ จึงมีลูกค้าสั่งจองมาลัยดอกมะลิสดเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งชาวสวนดอกมะลิไม่สามารถที่จะทำมาลัยกรดอกมะลิส่งให้ทันตามต้องการของลูกค้า เนื่องจากสวนดอกมะลิได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งส่งผลให้ดอกมะลิไม่ออกดอกจนไม่สามารถที่จะนำดอกมะลิไปร้อยเป็นมาลัยส่งขายได้

ชาวสวนดอกมะลิและชาวบ้านที่มีอาชีพร้อยมาลัยส่งขายจึงได้นำดอกพุดที่มีลักษณะดอกคล้ายกับดอกมะลิมาร้อยเป็นมาลัยแทนดอกมะลิ ในขณะที่ดอกมะลิสดมีราคาพุ่งสูงขึ้นจากเดิมราคากิโลกรัมละ 200 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 800 บาท ส่วนราคาการจำหน่ายมาลัยยังคงปกติไม่มีการปรับขึ้นแต่ใด โดยชาวบ้านที่ร้อยมาลัยจะส่งให้กับแม่ค้าในราคาพวงละ 5-10 บาท และมาลัยกร อันละ 20 บาท ก่อนที่แม่ค้าจะรับไปจำหน่ายต่อในราคาพวงละ 20 บาท และมาลัยกรอันละ 30-100 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของมาลัย ชาวบ้านจึงต้องเร่งนำดอกพุดไปร้อยมาลัยแทนดอกมะลิส่งจำหน่ายให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งก็ได้รับความนิยมไม่แพ้ดอกมะลิเช่นกัน เพราะดอกพุดก็มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับดอกมะลิเพียงแต่ดอกพุดไม่มีกลิ่นหอมเหมือนดอกมะลิเท่านั้นเอง

นางนุชกาญจน์ สุระขันธ์ อายุ 50 ปี อยู่ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ชาวบ้านที่มีอาชีพร้อยมาลัยส่งขาย บอกว่า ตนมีอาชีพร้อยมาลัยส่งขายมานานหลายปีแล้ว ซึ่งปกติจะพากันร้อยมาลัยดอกมะลิส่งขายแต่ในปีนี้ดอกมะลิไม่ออกดอกเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งประกอบกับดอกมะลิมีราคาค่อนข้างแพงในช่วงวันแม่ซึ่งจะต้องสั่งดอกมะลิจากปากคลองตลาดเข้ามาในราคากิโลกรัมละ 800 บาท จึงไม่คุ้มทุนกับการนำมาร้อยมาลัยตนจึงได้นำดอกพุดซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากและดอกคล้ายคลึงกับดอกมะลินำมาร้อยเป็นพวงมาลัยและมาลัยกรส่งขายให้กับแม่ค้านำไปขายต่อให้กับลูกค้าโดยมาลัยทั่วไปตนส่งให้ในราคาพวงละ 5-10 บาท แต่ถ้าเป็นมาลัยกรอันละ 20 บาท ซึ่งก็มีผู้ให้ความสนใจสั่งจองเข้ามาเป็นจำนวนมากเช่นกันในช่วงสัปดาห์วันแม่ปีนี้

ภาพ/ข่าว  สมัย  คำแก้ว  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ยโสธร