ข่าว

ปลัด ทส.สั่งอธิบดีน้ำบาดาล ส่งรายงานลับ แก๊งตบทรัพย์ แลกงบฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ชี้แจงกรณีอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แฉโดนอนุกรรมาธิการบางคนโทรเรียกเก็บเงิน  5 ล้านบาทแลกกับการผ่านงบประมาณ  โดยสั่งให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลส่งรายงานฉบับลับเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความโปร่งใส 

หลังจากที่นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แฉกลางวงประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในชุดคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ว่ามีอนุกรรมาธิการฯบางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาทแลกกับการผ่านงบประมาณ จนกลายเป็นประเด็นที่น่าสงสัยอยู่ในสังคมขณะนี้  ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ได้รับมอบหมายจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดและตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต้องตรวจสอบให้เคลียร์ 

เบื้องต้นได้สั่งการให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทำหนังสือราชการลับ รายงานข้อเท็จจริงและเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดส่งมาให้ในเย็นวันนี้(10/08/63) โดยสาเหตุที่ต้องทำรายงานลับเนื่องจากอาจมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามจึงต้องมีการตรวจสอบโดยเฉพาะ 

ส่วนเรื่องมีคลิปเสียงและพยานในที่ประชุมก็จะถือเป็นหลักฐานที่อยู่ในการตรวจสอบด้วย และหากพบว่าส่วนใดมีความผิดปกติไม่ชอบมาพากล จะส่งรายงานข้อมูลไปยังหน่วยงานนั้นในที่นี่จะส่งข้อมูลไปยัง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด รวมทั้งหาก ป.ป.ช. ต้องการตรวจสอบเพิ่มเติมกระทรวง ทส. ก็ยินดี เพื่อความโปร่งใสให้กับข้าราชการประจำและผู้ที่ถูกตรวจสอบด้วย

นอกจากนั้นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังบอกอีกว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่ดำรงตำแหน่งอธิบดีถึงปลัดกระทรวง ยังไม่เคยเจอปัญหาหรือกรณีเรียกรับเงินเช่นนี้มาก่อน

อีกทั้งในแต่ละคณะอนุกรรมาธิการส่วนใหญ่สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ  จึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เป็นความเข้าใจผิดหรือสับสนในข้อมูลการสื่อสารของทั้งฝั่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และคณะอนุกรรมาธิการชุดดังกล่าว

อย่างไรก็ตามในส่วนของงบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กว่า 30,000 ล้านบาทเศษ ถูกตัดงบออกไปประมาน 600 ล้านบาท ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลขออนุมัติงบประมาณ1,200 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 2563 ใช้งบได้ตามเป้าไปแล้วกว่าร้อยละ70 

ส่วนคำถามที่ว่ากรณีนี้หากตรวจสอบแล้วไม่พบข้อเท็จจริง จะกระทบต่อตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลหรือไม่ ต้องพิจารณารอบด้านอีกครั้ง หากไม่พบว่าเป็นความผิด ก็ไม่มีเหตุจะต้องลงโทษแต่อย่างใด พร้อมกำชับให้ข้าราชการ พนักงานกระทรวงเดินหน้าทำงานอย่างเต็มความสามารถ ไม่มีการผ่อนเกียร์ว่าง เพื่อให้ประชาชนและประเทศได้รับประโยชน์มากที่สุด 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ