ลูกทรพี ชะแลงทุบพ่อแม่ตายคาบ้าน หมกศพไว้ 6 วันก่อนสารภาพ

จากเหตุการณ์ที่นายชญาฐิติ เอิบกิ่ง อายุ 43 ปี หรือ กร ซึ่งเป็นลูกชายได้ใช้ชะแลงทุบเข้าที่บริเวณท้ายทอยของนายรัง อายุ 68 ปี และนางสี อายุ 65 ปี ผู้เป็นพ่อและแม่ จนเสียชีวิตนอนจมกองเลือดนานกว่า 6 วัน ภายในบ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 126 ม.2 บ้านหนองนกเขียน ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา โดยได้รับแจ้งเหตุวานนี้ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัย พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัย ฮุก31 จะเข้าไปในที่เกิดเหตุ

นายสำรวย ลากิ่ง อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองนกเขียน หมู่ที่ 2 ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากก่อเหตุและมีคนมาพบศพพ่อและแม่นั้น นายกรซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุได้ยืนรอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนายขวัญซึ่งเป็นน้องชายของนายกร ที่เข้ามาเห็นเหตุการณ์ก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะหลบหนีหายไป

กระทั่งตนซึ่งเป็นใหญ่บ้านและชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้ออกตามหานายขวัญ ก่อนจะพบตัวอยู่บริเวณริมถนนห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร มีอาการอิดโรยและมีท่าทางหวาดกลัว จากนั้นจึงได้พาตัวส่งญาติ จากการสอบถามนายขวัญยังไม่สามารถให้การใดๆได้ โดยในวันนี้ได้ให้น้องสาวของผู้ก่อเหตุมารับศพพ่อแม่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยจะทำการฌาปนกิจที่วัดหนองนกเขียน ในวันจันทร์ 10 ส.ค.นี้

ด้าน พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย เผยว่า หลังจากเกิดเหตุสลดลูกฆ่าพ่อและแม่นั้น ทางผู้ต้องหาชื่อ กร ก็ไม่ได้คิดที่จะหลบหนี และรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุหลังจากสำนึกผิด โดยจากการสอบถามผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำเพียงคนเดียว แต่น้องชายชื่อขวัญที่มีอาการทางประสาทได้เข้ามาพบศพพ่อและแม่พอดี จึงทำให้เกิดอาการหวาดกลัว โดยนายกรได้ขู่น้องชายไม่ให้บอกใคร หากรู้จะทำร้ายร่างกาย จึงทำให้นายขวัญวิ่งหนีตะเลิดไปอย่างไม่มีทิศทาง โดยทางญาติก็พยายามออกติดตาม

ส่วนผู้ต้องหาคือนายกร ก็ยอมรับสารภาพที่ทำลงไปทุกอย่าง หลังจากที่ตั้งสติได้ก็พยายามจะผูกคอตายในบ้าน แต่หายใจไม่ออกจึงได้รีบแกะเชือกเลยไม่ถึงแก่ความตาย และจากนั้นนายกรได้โทรศัพท์ไปแจ้งน้องสาวที่อยู่จังหวัดชลบุรีว่าได้ฆ่าพ่อและแม่แล้ว ส่วนตนเองจะรอมอบตัวอยู่ที่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายบุพการีจนถึงแก่ความตาย ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป