ตร.หญิงออสซี่อ่วม เตือนคนใส่แมสก์ตามกฎ เจอทึ้งผม-จับศีรษะกระแทกพื้น

รัฐวิคตอเรีย ศูนย์กลางระบาดของไวรัสโรคโควิด-19 ในออสเตรเลีย มีมาตรการบังคับประชาชนใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อออกไปในที่สาธารณะ แต่ใช่ว่าทุกคนจะปฏิบัติตาม หนำซ้ำถึงขั้นทำร้ายตำรวจจนบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (3 ส.ค.) ตำรวจหญิงสองคนในย่านแฟรงส์ตัน นครเมลเบิร์น เข้าไปเตือนสตรีวัย 38 ปีคนหนึ่งที่ไม่ได้ใส่แมสก์ เมื่อสอบถามว่าเหตุใดจึงไม่ใส่เท่านั้น อีกฝ่ายก็ลงมือผลักตร.หญิงคนหนึ่ง กับเล่นงานอีกคนที่ศีรษะ ระหว่างเหตุยื้อยุดฉุดกระชาก  สตรีที่ไม่สวมแมสก์จับศีรษะตร.หญิงวัย 26 กระแทกพื้นคอนกรีตหลายครั้ง ทั้งยังดึงผมจนหลุดติดมือไปเป็นกำ 

ตร.หญิงเคราะห์ร้ายถูกนำตัวส่งรพ.แฟรงส์ตัน ด้วยอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ต่อมา ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายสตรีที่ลงมือ 9 กระทง  แต่อนุญาตให้ประกันตัว เพราะเธอไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม ศาลนัดไต่สวน 21 มีนาคมปีหน้า 

เชน แพตตัน ผู้บัญชาการตำรวจวิกตอเรีย กล่าวว่า เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร ปฏิกริยาของสตรีวัย 38 จึงรุนแรงขนาดนั้น  แต่นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างของคนที่ปฏิเสธปฏิบัติตามมาตรการคุมเข้มและต่อต้านตำรวจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  

สัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจพบกระแสใหม่กับกลุ่มคนเรียกตนเองว่า พลเมืองอธิปไตย ( sovereign citizens ) ที่ไม่เชื่อว่ากฎหมายจะบังคับใช้กับพวกเขาได้ ตำรวจพบเห็นคนเหล่านี้ตามด่านตรวจ ล้อเลียนเยาะเย้ยตำรวจ ไม่ให้ความร่วมมือ  สัปดาห์ก่อนพบอย่างน้อย 4 ราย ตำรวจต้องทุบกระจกหน้าต่างและดึงคนเหล่านั้นออกมาให้รายละเอียด ฐานไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ไม่พูดชื่อไม่บอกที่อยู่ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐวิคตอเรีย กล่าวว่า คนกลุ่มมีไม่มาก แต่น่าวิตก พร้อมเตือนว่าการกระทำสิ่งใดไม่ถูกต้อง ล้วนมีผลตามมา และตำรวจจะไม่ลังเลในการจับกุม 

วันเดียวกัน ทางการรัฐวิกตอเรีย แถลงว่าจะส่งทหาร 500 นายกระจายบังคับใช้คำสั่งต้องอยู่บ้าน และเพิ่มวงเงินโทษปรับหากฝ่าฝืนคำสั่งกักตัว 4,659 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ( 1.03 แสนบาท ) หากทำผิดซ้ำค่าปรับอาจแตะ 2 หมื่นดอลลาร์ออสเตรเลีย ( 4.43 แสนบาท ) 

ที่มา ABC